คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1181/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของรวมในที่ดินมีโฉนดต่างครอบครองเป็นส่วนสัดเกิด 10 ปี แล้วเจ้าของรวมคนหนึ่งได้ใช้ทางเดินในที่ดินของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรวมอีกคนหนึ่งมาอีกระยะหนึ่ง จนเกิน 10 ปี แล้ว โอนขายที่ดินส่วนของตนให้โจทก์ไป ดังนี้ โจทก์ย่อมได้ภารจำยอมเหนือทางเดินนี้ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับจำเลยที่ ๑ มีชื่อถือกรรมสิทธิในโฉนดซึ่งต่างครอบครองเป็นส่วนสัด โจทก์ได้ใช้ทางเดินในที่ของจำเลยมาเกิน ๑๐ ปีแล้ว จำเลยปิดทางเสียขอให้เปิดทางและห้ามเกี่ยวข้อง
จำเลยให้การว่า ต่างครอบครองเป็นส่วนสัดกันมาโดยไม่มีทางเดิน
ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมที่ดินโฉนดนี้เป็นของนายตุ่ม ๆ ตายมาประมาณ ๓๐ ปีแล้ว ที่ดินตกให้แก่นางหนู นางอุบ ผู้บุตร ซึ่งต่างครอบครองเป็นส่วนสัดกันมา ต่อมาส่วนของนางอุบตกได้แก่จำเลยที่ ๑ ซึ่งมีทางเดินพิพาทอยู่ทางเหนือ นางหนูได้ใช้ทางนี้เดินและเข็นข้าวเข้าออกตลาดมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๙๕ นางหนูจำเลยที่ ๑ จึงขอถอนชื่อนายตุ่มออกจากโฉนด ลงชื่อนางหนูกับจำเลยที่ ๑ รับมรดก แล้วนางหนูได้โอนขายที่ส่วนของตนให้โจทก์ในปีเดียวกันนั้น ต่อมาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ จำเลยปิดทางนี้เสีย ดังนี้
ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ ว่า เป็นทางดภารจำยอมและโจทก์ได้สิทธิในภารจำยอม ยังคับให้จำเลยเปิดทาง

Share