คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องระบุแน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ ตำบล อำเภอใดได้นับคะแนนผิดความจริง คืออ่านบัตรดีของผู้ร้องเป็นบัตรเสีย และอ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลขใดเป็นบัตรดี แต่ไม่ได้ระบุว่าอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหน และอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดี ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม (อ้างนัยคำสั่งศาลฎีกาที่ 1901/2512)
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไร ที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องที่อ้างว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มิได้ยืนยันว่าผู้ได้รับเลือกตั้งคนใดให้ทรัพย์สินอะไรแก่ผู้ใด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2518 มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จังหวัดนครพนม การเลือกตั้งและบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 เป็นไปโดยมิชอบเพราะในการตรวจนับคะแนนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งมีอำเภอรวม 7 อำเภอนั้น

1. คณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยตำบลต่าง ๆ ในท้องที่ของเขตเลือกตั้งที่ 1 โดยเฉพาะในท้องที่ตำบลนาสีนวน ตำบลคำสร้อยอำเภอมุกดาหาร ตำบลนาถ่อน ตำบลน้ำก่ำ ตำบลแสนพัน อำเภอธาตุพนมและตำบลต่าง ๆ ในอำเภอนาแก อำเภอดอนตาล อำเภอคำชะอี กิ่งอำเภอเรณูนคร อำเภอปลาปาก ได้นับคะแนนผิดความจริงคือเมื่อมีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 3 ถูกต้อง กลับอ่านว่าเป็นบัตรเสีย ไม่ได้สลักหลังบัตรนั้นว่า “เสีย” และกรรมการตรวจคะแนน3 คนไม่ได้ลงลายมือกำกับไว้ ทำให้คะแนนของผู้ร้องน้อยไปกว่า 800 คะแนน และอ่านบัตรเลือกตั้งหมายเลข 2, 8, 18 ซึ่งเป็นบัตรเสีย เป็นบัตรดีกว่า 1,200 บัตร ทำให้คะแนนของผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นโดยมิชอบและทุจริตหรือประมาทเลินเล่อ

2. กรรมการตรวจนับคะแนนในตำบลต่าง ๆ ในท้องที่ 7 อำเภอ โดยเฉพาะในท้องที่ตำบลส้มป่อย ตำบลนาสีนวน อำเภอมุกดาหาร ตำบลดงหลวง อำเภอนาแก ได้อ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่นเพื่อช่วยเหลือคนอื่นให้ได้คะแนนเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 บัตร โดยมิชอบและทุจริต

3. กรรมการตรวจคะแนนในเขตเลือกตั้งตำบลต่าง ๆ ในเขตเลือกตั้งที่ 1 โดยเฉพาะในท้องที่อำเภอคำชะอี อำเภอดอนตาล อำเภอปลาปากอำเภอนาแก กิ่งอำเภอเรณูนครและอำเภออื่น ๆ ได้รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยรายงานแสดงผลของการนับคะแนนเป็นเท็จทำให้จำนวนบัตรลงคะแนนที่ผู้ได้รับเลือกตั้งในหน่วยนั้น ๆ มีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งหมายเลขประจำตัว 2, 8, 18 ให้ได้คะแนนมากขึ้นกว่า 1,000 คะแนนโดยมิชอบและทุจริต

4. ในตำบลต่าง ๆ ในท้องที่อำเภอนาแก อำเภอธาตุพนม กิ่งอำเภอเรณูนคร อำเภอมุกดาหาร ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ได้รับเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1 บางคนได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งหลายราย หลายท้องที่ เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนแก่ตน

ขอให้ดำเนินการพิจารณาและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 ของจังหวัดนครพนม

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและผู้ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่ 1 รวม 3 คนต่างยื่นคำคัดค้านว่า กรรมการตรวจคะแนนทุกหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและสุจริตกับคัดค้านว่าคำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม

ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความซึ่งได้แถลงรับข้อเท็จจริงบางประการแล้วสั่งงดสืบพยานของทั้งสองฝ่าย ทำความเห็นว่าคำร้องทุกข้อเป็นคำร้องเคลือบคลุม ส่งสำนวนมายังศาลฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า

1. ผู้ร้องได้ระบุมาในคำร้องแน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งซึ่งอยู่ในท้องที่ตำบลนาสีนวน ตำบลคำสร้อยอำเภอมุกดาหาร ตำบลนาถ่อน ตำบลน้ำก่ำ ตำบลแสนพัน อำเภอธาตุพนม และตำบลต่าง ๆ ในอำเภอนาแก อำเภอดอนตาลอำเภอคำชะอี กิ่งอำเภอเรณูนคร อำเภอปลาปาก ได้นับคะแนนผิดความจริง คืออ่านบัตรดีของผู้ร้องเป็นบัตรเสียและอ่านบัตรเสียของผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 2, 8, 18เป็นบัตรดี แต่ผู้ร้องไม่ได้ระบุว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหนและอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดีจึงเป็นคำร้องที่เคลือบคลุมโดยนับคำสั่งศาลฎีกาที่ 1901/2512 คดีระหว่างนายบุญ เนือกขุนทด ผู้ร้อง นายสมชาย กลิ่นแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากับพวก ผู้คัดค้าน

2. ผู้ร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนได้อ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่นเพื่อช่วยเหลือคนอื่นเห็นได้ว่าผู้ร้องไม่ยืนยันว่าหมายเลขอื่นและคนอื่นเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ข้อนี้เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

3. ผู้ร้องได้ระบุมาในคำร้องแน่ชัดว่ากรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอคำชะอี อำเภอดอนตาล อำเภอปลาปาก อำเภอนาแก กิ่งอำเภอเรณูนคร และอำเภออื่นในเขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งหมายความว่าทุกหน่วยเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 1ได้รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง แต่ผู้ร้องไม่ได้บรรยายมาในคำร้องให้แจ้งชัดว่าได้มีการกระทำอย่างไรที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง ผู้ร้องอ้างแต่ผลของรายงานว่าทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ยากที่จะทำให้ผู้คัดค้านเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ข้อนี้เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

4. ผู้ร้องอ้างว่าผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มิได้ยืนยันว่าผู้ได้รับเลือกตั้งคนใดได้ให้ทรัพย์สินอะไร แก่ผู้ใด ข้อนี้เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม

จึงมีคำสั่งว่า คำร้องของผู้ร้องทุกข้อไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 ให้ยกเสีย

Share