แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยในคดีอาญาได้ระบุอ้างพยานไว้แล้ว แต่ศาลสั่งงดสืบพยานของจำเลยเสียแล้ว พิพากษายกฟ้องโดยไม่เชื่อพยานโจทก์ เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฝ่ายโจทก์มั่นคงจะลงโทษจำเลยก็จำจะต้องฟังคำพยานฝ่ายจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความก่อน ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยไปทีเดียวโดยไม่ได้ฟังคำพยานจำเลยแล้วศาลฎีกาย่อมพิพากษา ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยมีฝิ่นเถื่อนไว้ในครอบครอง ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ฝิ่น
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า ฝิ่นของกลางไม่ใช่ฝิ่นรายที่จับได้จากจำเลย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าฝิ่นของกลางเป็นฝิ่นที่จับได้จากจำเลยจริง พิพากษาปรับ ๘ เท่าราคาฝิ่น ฯลฯ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ปรากฎตามบัญชีระบุพยานของจำเลยว่า จำเลยอ้างนายลี้และนายเซ่งอ๋วงเป็นพยานไว้ แต่ศาลชั้นต้นได้สั่งงดสืบพยานสองคนนี้เสีย เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีฝ่ายโจทก์มั่นคงจะลงโทษจำเลย ก็จำจะต้องฟังคำพยานฝ่ายจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความก่อน เพราะไม่ได้ความในสำนวนว่าจำเลยอ้างนายลี้ นายเซ่งอ๋องเป็นพยานในข้อใดบ้าง ฉะนั้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ซึ่งลงโทษจำเลยจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลฎีกาเห็นเป็นการจำเป็นการจำเป็นจะต้องฟังคำพยานที่จำเลยได้อ้างไว้ต่อไปก่อน จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยให้สิ้นกระแสร์ความแล้วส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่
