คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 630/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยครอบครองทำนาพิพาทอยู่ก่อน ภายหลังเป็นความกับโจทก์ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิที่นาพิพาท แต่โจทก์ยังมิได้จัดการให้ได้มาซึ่งการครอบครองแต่ประการใด จำเลยจึงเข้าทำนาพิพาทต่อไปตามเคย ดังนี้การกระทำของจำเลยยังไม่เข้าหลักอันจะเป็นความผิดฐานบุกรุกตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 327

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยบุกรุกเข้าไถและหว่านข้าวลงในนาพิพาทอันโจทก์มีกรรมสิทธิตามคำพิพากษาของศาล ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๗
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า นาพิพาทนี้เดิมเป็นของตายายของโจทก์จำเลย ต่อมาตกอยู่ในความครอบครองของจำเลย แล้วโจทก์จำเลยเป็นความกัน ศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะ แต่โจทก์ยังมิได้จัดการรับที่นานี้อย่างไร ให้จำเลยออกจากนาพิพาทเพื่อส่งมอบการครอบครองให้โจทก์ มาในปีที่เกิดเหตุจำเลยได้ไปไถนาตามเคย จึงเกิดโต้เถียงกับโจทก์ ๆ จึงนำคดีมาฟ้องดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองนาพิพาทอยู่ ฝ่ายโจทก์หาได้ครอบครองไม่ แม้ศาลจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีในเรื่องก่อน โจทก์ก็ยังมิได้จัดการให้ได้มาซึ่งการครอบครอง ดังนี้ คดีของโจทก์จึงยังไม่เข้าหลักอันจะเป็นความผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๓๒๗
จึงพิพากษายืน

Share