แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ครอบครองโคของผู้อื่นมาโดยสงบและเปิดเผยเป็นเวลา 5 ปี ย่อมได้กรรมสิทธิ โจทก์ห้องว่าจำเลยลักโคซึ่งเป็นกรรมสิทธิของเจ้าทุกข์ แม้ทางพิจารณาได้ความว่าเจ้าทุกข์มีเพียงสิทธิครอบครองเท่านั้นก็ตาม จะยกฟ้องตาม ม. 192 วรรค 2 มิได้อุทธรณ์ฎีกาในคดีอาญาที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ตาม ม. 294 จำเลยฎีกาได้ฉะเพาะแต่ข้อกฎหมาย
ย่อยาว
คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลยฐานลัดโคของ ต. ตามมาตรา ๒๙๔ มีกำหนดคนละ ๓ ปี
จำเลยฎีกาว่าฟ้องโจทก์มีว่าโคเป็นกรรมสิทธิของ ต. แต่กลับสืบว่าโคอยู่ในครอบครองของ ต. เป็นการผิดเรื่องฟ้องจะรับฟังไม่ได้ ต.จึงไม่มีอำนาจร้องทุกข์ตามกฎหมาย
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามคำให้การของ ต. มีว่า โคนี้พ่อตายกให้มา ๖ ปีแล้ว ดังนี้จะเห็นว่า ต.ถือตนว่าโคเป็นยองตน และตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๓๘๒ ต. อาจเป็นเจ้าของกรรมสิทธิได้เมื่อได้ครอบครองโดยความสงบ และเปิดเผยโดยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อมาได้ ๕ ปี ทั้งโครายนี้ก็อยู่ในความครอบครองของ ต. การครอบครองจะโดยกรรมสิทธิหรือไม่เป็นเรื่องระหว่าง ต.กับเจ้าของเดิม และถึงแม้จะได้ความว่า ต. มีแต่ความครอบครองอย่างเดียว ข้อผิดก็เป็นเรื่องเล็กน้อยจะยกฟ้องตาม ม. ๑๙๒ วรรค ๒ แห่งประมวลวิธีพิจารณาความอาญามิได้ จึงให้ยกฎีกาโจทก์