คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1174/2482

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องในรายละเอียดนั้นย่อมทำได้เสมอ เว้นแต่จำเลยจะ+ลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือที่มิได้กล่าวไว้นั้น,
จำเลยเข้าแย่งชิงของกลางหากตำรวจเพื่อจะเอาทำลาย ไม่ตั้งใจเอาไปเพื่อประโยชน์ตนหรือผู้อื่นโดยเพื่อจะช่วยเหลือผู้ทำผิดในเรื่องมีของกลางนั้นดังนี้จำเลยไม่มีผิดฐานปล้นทรัพย์+มีผิดตาม ม.120,122,154.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ตำรวจจับตัวนายมีซึ่งต้องหาว่ามีสาโทเถื่อนบรรจุคุณโทดิน ๑ ใบและบรรจุขวด ๑ ขวดเป็นของกลาง จะส่งอำเภอระหว่างทางจำเลยมีอาวุธสมคบกันแย่งชิงเอาสาโทเถื่อนของกลางนี้จากเจ้าพนักงานโดยเข้าทำร้ายและใช้ปืนขู่ แย่งเอาขวดสาโทเถื่อนไปได้ ๑ ขวด ฯลฯ เมื่อสืบพะยานโจทก์แล้ว ๑ ปากโจทก์ขอแก้ฟ้องเป็นว่า จำเลยเข้าแย่งของกลางซึ่งเป็นสาโทเถื่อนบรรจุคณโฑดิน ๑ ใบและสุราเถื่อนบรรจุขวด ๑ ขวด ฝ่ายจำเลยคัดค้านว่าเสียเปรียบ
ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้ พิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายอาญา ม.๑๒๐,๑๒๒ ,๑๕๔(๔) และ ๓๐๑ ให้ลงโทษตาม ม.๓๐๑ จำคุกคนละ ๑๐ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๑๖๔ การขอแก้ฟ้อง เพิ่มเติมฟ้องในรายละเอียดมิได้ ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ เว้นแต่จำเลยหลงต่อสู้ในข้อที่ผิดหรือที่มิได้กล่าวไว้ คดีนี้จำเลยไม่หลงข้อต่อสู้แต่อย่างใด ข้อคัดค้านจึงฟังไม่ขึ้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยสมคบกันแย่งขวดสุราที่ตำรวจจับได้จากนายมีและทำร้ายตำรวจเพื่อช่วยเหลือนายมีให้พ้นผิด ไม่ปรากฎว่าจำเลยมีเจรจาจะทำการปล้นขวดสุรามาแต่เริ่มแรก จำเลยแย่งไปก็เพื่อจะทำลายของกลางให้สูญหาย เพื่อช่วยเหลือนายมีให้พ้นผิดไป ไม่ตั้งใจเอาไปเพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเองหรือผู้อื่นใด จึงลงโทษจำเลยตาม ม.๓๐๑ ไม่ได้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีผิดตาม ม.๑๒๐ วรรค ๒,๑๒๒,๑๕๔(๑) ให้ลงโทษตามบทหนักใน ม.๑๒๐ วรรค ๒ จำคุกคนละ ๓ ปี

Share