คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยปิดทับราคาที่พิมพ์ไว้ตาม กฎหมายที่สินค้าควบคุมเพื่อไม่ให้ราคาที่พิมพ์ไว้ปรากฏ และจำหน่ายสินค้าควบคุมนั้นไปตาม ราคาที่ปิดทับซึ่ง สูงกว่าราคาควบคุม เป็นการกระทำโดย มีเจตนาและจุดมุ่งหมายอันเดียว กันและต่อเนื่องกัน ทั้งยังเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายฉบับ เดียว กัน มีบท ลงโทษบทเดียว กัน เป็นความผิดกรรมเดียวและผิดกฎหมายบทเดียว น้ำมันหล่อลื่นอันเป็นสินค้าควบคุมที่จำเลยจำหน่ายไปเกินกว่าราคาควบคุมมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตาม ป.อ. มาตรา 33(1) เพราะความผิดของจำเลยอยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางตาม มาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.กำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดฯ ปัญหาเรื่องริบของกลางเป็นปัญหาเกี่ยวด้วย ความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522 มาตรา 8, 23, 24, 25,27, 40, 43 ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดฉบับที่ 71 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2527 เรื่อง การกำหนดสินค้าและควบคุม ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาดฉบับที่ 88 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528 เรื่อง กำหนดมาตรการในการจำหน่ายสินค้าควบคุม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ริบน้ำมันหล่อลื่นของกลาง คืนเงินทอน 5 บาทแก่จำเลยทั้งสอง และคืนธนบัตร 60 บาทของกลางแก่เจ้าของ และจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522 มาตรา 8, 23, 24,25, 27, 40, 43 ประกาศคณะกรรมการกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 71 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 เรื่องการกำหนดสินค้าและควบคุม ประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่ 88 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2528เรื่องกำหนดมาตรการในการจำหน่ายสินค้าควบคุมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 91 (ที่ถูกไม่ต้องระบุมาตรา 91) ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน4,000 บาท จำเลยที่ 2 ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 4,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงปรับจำเลยที่ 1 จำนวน 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2กำหนด 3 เดือนและปรับ 2,000 บาท โทษจำคุกจำเลยที่ 2 เห็นสมควรรอไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ในกรณีที่จำเลยทั้งสองไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30ริบน้ำมันหล่อลื่นของกลางคืนเงินทอน 5 บาทแก่จำเลย คืนธนบัตร60 บาท ของกลางแก่เจ้าของและจ่ายเงินรางวัลแก่ผู้จับตามกฎหมาย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…การที่จำเลยปิดทับราคาที่พิมพ์ไว้ตามกฎหมายที่สินค้าควบคุมให้ไม่ปรากฎคือจำเลยปิดราคา 55 บาท ทับราคาควบคุม 52 บาท ลงบนกระป๋องบรรจุน้ำมันหล่อลื่นนั้น ก็เพราะจำเลยมีจุดประสงค์ที่จะจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นดังกล่าวในราคากระป๋องละ55 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาควบคุม ดังนั้นเมื่อจำเลยจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นกระป๋องนั้นในราคา 55 บาท ก็เป็นการกระทำที่ทำให้จำเลยบรรลุจุดประสงค์ดังกล่าว จึงเป็นการกระทำโดยมีเจตนาและจุดมุ่งหมายอันเดียวกันและต่อเนื่องกัน ทั้งการกระทำของจำเลยทั้งสองประการดังกล่าวยังเป็นการฝ่าฝืนประกาศฉบับเดียวกัน คือประกาศคณะกรรมการกลางกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด ฉบับที่88 พ.ศ. 2528 เรื่อง กำหนดมาตรการในการจำหน่ายสินค้าควบคุม ข้อ 11และข้อ 12 นอกจากนี้การกระทำของจำเลยทั้งสองประการดังกล่าวยังมีบทลงโทษบทเดียวกันคือพระราชบัญญัติกำหนดราคาสินค้าและป้องกันการผูกขาด พ.ศ. 2522 มาตรา 43 อีกด้วย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียวและผิดกฎหมายบทเดียวหาใช่เป็นการกระทำผิด 2 กระทงดังที่โจทก์ฎีกาไม่ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น อย่างไรก็ตามที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ริบน้ำมันหล่อลื่นของกลางตามฟ้องนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยเพราะเห็นได้ชัดว่า ความผิดของจำเลยในคดีนี้อยู่ที่การฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการกลางตามมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว น้ำมันหล่อลื่นที่จำเลยได้จำหน่ายไปมิใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดอันจะพึงริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1) แม้จำเลยมิได้อุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาแต่ปัญหาเรื่องริบของกลางนี้เป็นปัญหาเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบน้ำมันหล่อลื่นของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share