แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคาร ส. เพื่อให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 3,4 และ 8 เมษายน 2529 ทั้งสามครั้ง และธนาคารตามเช็คแจ้งให้ธนาคาร ส.ทราบเมื่อวันที่8เมษายน2529ธนาคารส. แจ้งให้โจทก์ทราบเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คให้ด้วย แม้ด้านหลังเช็คพิพาทมีข้อความระบุชัดว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ต้องถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่ 9 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2529 และนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้ โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529 จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีโจทก์ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบ เมื่อถึงกำหนดโจทก์นำเช็คพิพาทไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารสยาม จำกัด สาขาบางจาก เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็คปรากฏว่าธนาคารตามเช็คพิพาทปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2529 ครั้งที่สองเมื่อวันที่4 เมษายน 2529 โดยให้เหตุผลว่า ยังรอเรียกเก็บเงินอยู่และครั้งที่สามปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2529 โดยให้เหตุผลว่า โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย เพราะเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่าย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาสะพานพระปิ่นเกล้าจึงแจ้งให้ธนาคารสยาม จำกัด สาขาบางจาก ทราบ เมื่อวันที่ 8 เมษายน2529 และธนาคารสยาม จำกัด ได้แจ้งให้โจทก์ทราบ เมื่อวันที่ 9เมษายน 2529 พร้อมกับส่งเช็คและใบคืนเช็คการปฏิเสธการจ่ายเงินทั้ง 3 ครั้งตามเอกสารหมาย จ.3, จ.4, จ.6 และ จ.7 ตามลำดับให้โจทก์ ด้านหลังเช็คพิพาทเอกสารหมาย จ.3 มีการประทับตรายางบอกวันเดือนปีที่ธนาคารตามเช็คพิพาทปฏิเสธการจ่ายเงินไว้ทั้ง3 ครั้งดังกล่าวข้างต้น โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2529มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่เห็นว่าแม้ด้านหลังเช็คพิพาท มีข้อความระบุชัดว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันใด แต่ขณะนั้นเช็คคงอยู่ที่ธนาคาร และโจทก์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง จะถือว่าโจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วในวันนั้นไม่ได้ โจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อใดจะต้องถือตามความเป็นจริงคือวันที่ 9 เมษายน 2529 ซึ่งเป็นวันที่ธนาคารสยาม จำกัด สาขาบางจาก แจ้งให้โจทก์ทราบ แม้ในวันดังกล่าวโจทก์ทราบจากข้อความด้านหลังเช็คอีกว่าธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินมาก่อนแล้วตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2529 จะให้ถือว่าโจทก์ทราบและนับอายุความย้อนหลังตั้งแต่วันนั้นไม่ได้คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาปัญหาข้อเท็จจริงในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปความ.