แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การเพิกถอนพินัยกรรมโดยบอกเลิกด้วยวาจา ไม่มีผลตามกฎหมาย
ย่อยาว
ผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์ที่พิพาทให้โจทก์ โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยออกจากทรัพย์ที่พิพาท จำเลยต่อสู้ว่า พินัยกรรมไม่สมบูรณ์และผู้ตายบอกเลิกพินัยกรรมแล้ว ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลยตามฟ้อง จำเลยฎีกา มีปัญหาเกี่ยวกับการบอกเลิกพินัยกรรมซึ่งศาลฎีกาพิพากษาดังนี้
“ข้อที่จำเลยนำสืบว่า นายสอนได้บอกล้างพินัยกรรมแล้วก็ขัดด้วยหลักฐานพยานของจำเลยเอง กล่าวคือ จำเลยนำสืบว่านายสอนบอกล้างการยกเรือนถวายวัด เพราะมีเงินของบุตรปนอยู่แต่เมื่อนายสอนตายแล้ว นางแก้วกลับไปร้องอำเภอว่า เรือนรายพิพาทเป็นมรดกของนายสอน ไม่ได้กล่าวอ้างว่า มีเงินของบุตรคนใดปนอยู่ดังจำเลยนำสืบมา อย่างไรก็ดี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1695 ที่ศาลชั้นต้นยกมาอ้างบัญญัติไว้ว่า การเพิกถอนพินัยกรรมทั้งหมดหรือแต่บางส่วน ต้องทำลายพินัยกรรมหรือขีดฆ่าเสียด้วยความตั้งใจการบอกเลิกด้วยปากดังจำเลยนำสืบมาไม่มีผลในกฎหมาย”
พิพากษายืน