คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประกาศกระแสพระบรมราชโองการลงวันที่ 20 +ยายน 2460 ให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำทั่วพระราชอาณาจักร์ ประมวลวิธีพิจารณาอาญา 205-195 โจทก์ฟ้องอุทธรณ์รับมาว่ายังมิได้มีประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำในเขตต์จังหวัดน่านภายหลังยื่นคำแถลงการณ์ว่าที่จริงมีประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำนั้นในเขตต์จังหวัดน่านแล้วเช่นนี้ศาลอุทธรณ์จะรับฟังไม่ได้ เพราะทำแถลงการณ์มิได้เป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องอุทธรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจตั้งค้างดักปลาและใช้จิบจับปลาเป็นการกั้นทางหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.อากรค่าน้ำ และกฎหมายอาญา ม.๓๓๖(๑)
ศาลชั้นต้นปรับจำเลยตามกฎหมายอาญา ม.๓๓๖ ข้อ ๑ ส่วนการลงโทษตามพ.ร.บ.อากรค่าน้ำให้ยกเสีย เพราะพ.ร.บ.นี้ยังมิได้ประกาศใช้ในจังหวัดน่าน
ในชั้นอุทธรณ์โจทก์รับว่า พ.ร.บ.อากรค่าน้ำยังมิได้ประกาศใช้ในจังหวัดน่าน แต่ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงการณ์ว่าได้มีประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำในเขตต์มณฑลพายัพซึ่งเกินความรวมถึงจังหวัดน่านด้วย
ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีประกาศให้ใช้พ.ร.บ.อากรค่าน้ำในจังหวัดน่านแล้ว แต่โจทก์ไม่สืบว่าเครื่องมือที่จำเลยใช้นั้นเป็นชนิตใดต้องห้ามหรือไม่ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาต่อมา
ศาลฎีกาตัดสินว่า ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามมตรา ๓๓๖ ข้อ ๑ อย่างเดียว ฟ้องอุทธรณ์โจทก์ก็รับว่ายังไม่มีประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำในเขตต์จังหวัดน่าน โจทก์พึ่งมาอ้างในชั้นแถลงการณ์ ซึ่งตามประมวลวิธีพิจารณาอาญา ม.๒๐๕ มิให้ถือว่าคำแถลงการณ์เป็นส่วนหนึ่งแห่งฟ้องอุทธรณ์ เมื่อปรากฎดังนี้ ต้องถือว่าโจทก์มิได้ยกข้อกฎหมายว่ามีประกาศให้ใช้ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำในเขตต์จังหวัดน่านขึ้นอ้างอิงในชั้นอุทธรณ์ตาม ม.๑๙๕ แห่งประมวลวิธีพิจารณาความอาญาฉะนั้นปัญหาอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อากรค่าน้ำจึงไม่เกิดขึ้น ฎีกาโจทก์จึงตกไปพิพากษยืนตามศาลชั้นต้น

Share