แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทำละเมิดโดยปล่อยกระบือของจำเลยให้ขวิดกระบือของโจทก์ขาหักในวันที่ 17 ตุลาคม 2517 ตรงตามที่กล่าวในฟ้อง จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันเกิดเหตุทำละเมิดเป็นวันอื่นนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ข้อเท็จจริงจึงต่างกับฟ้อง จำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น เป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยปล่อยกระบือของจำเลยขวิดกระบือของโจทก์ขาหักใช้งานไม่ได้ ขอให้ใช้ค่าเสียหาย 4,000 บาท
จำเลยให้การว่า กระบือของจำเลยไม่ได้ขวิดกระบือโจทก์
ศาลชั้นต้นฟังว่า กระบือของจำเลยขวิดกระบือโจทก์ขาหัก พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน 1,500 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ข้อกฎหมายไม่รับวินิจฉัยให้ พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยฎีกาว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทเพียง 4,000 บาท ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงเป็นยุติว่า จำเลยทำละเมิดโดยปล่อยกระบือของจำเลยให้ขวิดกระบือของโจทก์ขาหักเสียหายใช้งานไม่ได้ในวันที่ 17 ตุลาคม 2517 ตรงตามที่กล่าวในฟ้อง จำเลยต้องใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ ฉะนั้น ที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าวันเกิดเหตุจำเลยทำละเมิดเป็นวันอื่นนอกเหนือจากที่ศาลชั้นต้นฟังมา ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง จำเลยไม่ต้องรับผิดนั้น เป็นอุทธรณ์โต้เถียงข้อเท็จจริง
พิพากษายืน