แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยไม่ได้ใช้วาจาขู่เข็ญ แต่ได้ใช้มีดเงื้อจะทำร้ายเจ้าพนักงานก็ย่อมถือได้แล้วว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายโดยประสงค์จะต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสมคบกับนายพลอย ทำ มี และแปรรูปไม้สักโดยไม่รับอนุญาต และจำเลยบังอาจใช้มีดโต้เงื้อจะทำร้ายนายประสิทธิป่าไม้อำเภอกับพวก โดยประสงค์จะต่อสู้และขัดขวางมิให้นายประสิทธิกับพวกจับกุมจำเลย ขอให้ลงโทษ
จำเลยรับเรื่อง ทำ มี และแปรรูปไม้ แต่ปฏิเสธเรื่องต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่ได้ลงมือใช้กำลังทำร้ายนายประสิทธิ การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดตาม ก.ม.อาญา ม.๑๒๐ ไม่วินิจฉัยถึงการที่จำเลยเงื้อมีดจะทำร้ายนายวณิชย์ด้วย พิพากษาให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๑๑๙,๕๙ จำคุก ๑ เดือน ปรับ ๑๐๐ บาท และให้รอการลงโทษไว้ ๑ ปี
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าฟ้องโจทก์พอเข้าใจแล้วว่าหมายถึงจำเลยเงื้อมีดจะฟันพวกเจ้าพนักงานซึ่งมากับนายประสิทธิ์ด้วยคือนายวณิชย์นั่นเอง การที่จำเลยเงื้อมีดจะฟันนายวณิชย์เช่นนั้นย่อมถือได้ว่าเป็นการขู่เข็ญจะทำร้ายโดยประสงค์จะต่อสู้ขัดขวางต่อเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่โดยชอบด้วย ก.ม.ตาม ก.ม.อาญา ม.๑๒๐ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.๑๒๐ ตอน ๒ และ ม.๕๙ จำคุก ๔๕ วัน ปรับ ๑๐๐ แต่ให้รอโทษจำไว้ ๑ ปี