คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 มีหนังสือถึงโจทก์แสดงความประสงค์จะขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จตามราคาที่จำเลยที่ 3 ได้มาติดต่อไว้แล้วเพื่อทำถนน ในวันรุ่งขึ้นโจทก์ก็ส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ทันทีและทยอยส่งมาให้อีก 2 ครั้งจนถนนแล้วเสร็จซึ่งถ้าหากจำเลยที่ 2 ไม่มีหนังสือแจ้งไปเหตุไฉนโจทก์จะส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้สนองรับข้อเสนอของจำเลยที่ 2 แล้วโดยสมบูรณ์
จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างถนนในกิจการของจำเลยที่ 1 ให้แล้วเสร็จภายในเวลากำหนด โดยให้จำเลยที่ 2 เป็นผู้ตัดสินในการจัดทำถนนให้เสร็จในกำหนดเวลานั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่าจำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ดำเนินการในเรื่องทำถนนให้เสร็จตามกำหนดเวลา จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1โดยปริยายในการที่จะต้องสร้างถนนให้ทันตามกำหนดเวลา การที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์มาสร้างถนนดังกล่าวให้ทันเวลาตามความประสงค์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย จำเลยที่ 2 เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลและสังกัดอยู่กับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 เป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยทั้งสามได้ซื้อเชื่อคอนกรีตผสมเสร็จไปจากโจทก์รวม 3 คราวเป็นเงิน 47,150 บาท จำเลยทั้งสามได้รับคอนกรีตผสมเสร็จดังกล่าวครบถ้วนแล้ว แต่ยังไม่ได้ชำระราคาโจทก์ทวงถามแล้วไม่ยอมชำระขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน47,150 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การร่วมกันว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ว่าจ้างได้ทำสัญญาจ้างเหมา จำเลยที่ 3 ให้เป็นผู้ก่อสร้างถนนคอนกรีตโดยผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาสิ่งของและสัมภาระจำเลยที่ 1 ไม่เคยซื้อเชื่อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 เคยมีหนังสือขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ แต่โจทก์มิได้สนองตอบคำเสนอของจำเลยที่ 2 สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 จึงมิบังเกิดขึ้นได้ คอนกรีตผสมเสร็จตามฟ้องผู้ซื้อและผู้รับของคือจำเลยที่ 3 เป็นคนละรายกับที่จำเลยที่ 2 เสนอจำเลยที่ 2ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ คดีโจทก์ขาดอายุความ

จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 3 ชำระเงิน 47,150 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2

โจทก์อุทธรณ์ ขอให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมรับผิดใช้เงินให้แก่โจทก์ตามฟ้องด้วย

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 ร่วมชำระเงิน 47,150 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าจำเลยที่ 1 ไม่เคยขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์ ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 มีหนังสือขอซื้อไปดังปรากฏตามเอกสารหมาย จ.2 หรือ ล.1 ก็ตาม ก็เป็นการกระทำส่วนตัวของจำเลยที่ 2 เองจำเลยที่ 1 ไม่รู้เห็นยินยอมหรือให้สัตยาบัน ทั้งโจทก์ก็มิได้แจ้งหรือสนองรับเป็นหนังสือให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างตามสัญญาทราบ หนังสือดังกล่าวเป็นเพียงคำมั่นของจำเลยที่ 2 ว่า จะหักเงินให้โจทก์เพื่อสนองรับและแจ้งขอรับเงินในเวลาอันสมควรเท่านั้น เห็นว่าข้อความตามเอกสารหมาย จ.2 หรือ ล.1 มีว่าจำเลยที่ 2 มีความประสงค์จะขอซื้อคอนกรีตผสมเสร็จตามราคาที่จำเลยที่ 3ได้มาติดต่อไว้แล้วเพื่อทำถนนของโรงพยาบาล และขอให้ทางโจทก์เทและเกลี่ยให้เสร็จ โดยจำเลยที่ 2 ขอรับรองว่าเมื่อจำเลยที่ 3 ได้รับเงินค่าจ้างเหมาทำถนนนี้แล้ว จำเลยที่ 2 จะหักเงินไว้ให้เพื่อชำระค่าคอนกรีตให้โจทก์ ปรากฏว่าเมื่อจำเลยที่ 2 มีหนังสือไปแล้วในวันรุ่งขึ้นนั้นเอง โจทก์ก็ส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ทันที และทยอยส่งให้จนถนนแล้วเสร็จ ซึ่งถ้าจำเลยที่ 2 ไม่มีหนังสือแจ้งไปเหตุไฉนโจทก์จึงส่งคอนกรีตผสมเสร็จมาให้ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าโจทก์สนองรับข้อเสนอของจำเลยที่ 2 แล้วโดยสมบูรณ์ทั้งข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าหลังจากโจทก์ส่งคอนกรีตผสมเสร็จให้เรียบร้อยแล้ว จำเลยที่ 2 ก็ยังยืนยันที่หักเงินค่าจ้างเหมาให้โจทก์อีก

ข้อที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าเอกสารหมาย จ.2 และ ล.1 จำเลยที่ 2 กระทำไปโดยส่วนตัว ไม่ผูกพันจำเลยที่ 1 นั้น เห็นว่าตามคำเบิกความของนายแพทย์กษาณผู้แทนจำเลยที่ 1 ว่า “ก่อนจะเปิดตึก 84 ศิริราช เมื่อวันที่ 26 เมษายน2496 ถนนนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ จำเลยที่ 1 ต้องทำถนนให้เสร็จก่อนเปิดตึกศิริราช จำเลยที่ 2 เป็นผู้ตัดสินใจในการจัดทำถนนให้เสร็จก่อนวันเปิดตึกศิริราช” นั้น เป็นพฤติการณ์ที่แสดงว่า จำเลยที่ 1 ได้มอบหมายให้จำเลยที่ 2ดำเนินการในเรื่องทำถนนให้เสร็จก่อนวันดังกล่าว จำเลยที่ 2 จึงเป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 โดยปริยายในการที่จะต้องสร้างถนนให้ทันตามกำหนดเวลาฉะนั้น การที่จำเลยที่ 2 สั่งซื้อคอนกรีตผสมเสร็จจากโจทก์สร้างถนนดังกล่าวให้ทันเวลาตามความประสงค์ของจำเลยที่ 1 จึงเป็นการทำในขอบเขตวัตถุประสงค์ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดต่อโจทก์

พิพากษายืน

Share