คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1166/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่ผู้ร้อง จำเลยผิดสัญญา ผู้ร้องจึงฟ้องขอให้จำเลยขายที่พิพาทหรือใช้ค่าเสียหาย คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ร้องขอให้ศาลยึดที่พิพาทรายนี้ไว้แล้ว และถึงกำหนดวันขายทอดตลาด ผู้ร้องได้ร้องขอให้งดการขายทอดตลาด ดังนี้ ศาลจะสั่งให้งดการขายทอดตลาด หาได้ไม่ เพราะสัญญาระหว่างจำเลยกับผู้ร้องเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายที่พิพาทให้แก่กัน กรรมสิทธิ์ในที่ดินยังหาได้เปลี่ยนมือมาเป็นของผู้ร้องไม่ และผู้ร้องไม่มีบุริมสิทธิ หรือสิทธิเหนือที่ดินพิพาทประการใด

ย่อยาว

ความว่า จำเลยทำสัญญาจะขายที่พิพาทให้แก่นายชูผู้ร้องจำเลยผิดสัญญา นายชูจึงฟ้องจำเลย ให้จำเลยขายที่พิพาทหรือใช้ค่าเสียหาย คดีอยู่ในระหว่างพิจารณา ฝ่ายโจทก์ในคดีนี้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ได้ร้องขอให้ศาลยึดที่พิพาทไว้แล้ว และถึงกำหนดวันขายทอดตลาด ผู้ร้องได้ร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อนศาลชั้นต้นสั่งให้งดการขาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ทรัพย์รายนี้ตกอยู่ในการยึดของเจ้าพนักงานบังคับคดี จนถึงวันขายทอดตลาดแล้ว จำเลยหาใช่เป็นผู้มีสิทธิครอบครองหรือจะใช้สิทธิในทรัพย์นี้เหมือนเมื่อตนครอบครองอยู่แต่ก่อนไม่ ทั้งสัญญาระหว่างนายชูกับจำเลยเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายกรรมสิทธิ์ในที่ดินยังหาได้เปลี่ยนมือมาเป็นของนายชูไม่ และนายชูไม่มีบุริมสิทธิ์และสิทธิเหนือที่ดินรายนี้แต่ประการใด

พิพากษายืน

Share