คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามฟ้องโจทก์กล่าวว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เมื่อปรากฏว่าสามีโจทก์เคยไปขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่พิพาทเมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ 2506 จำเลยคัดค้านว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยโดยสามีโจทก์ขายให้และครอบครองตลอดมา แสดงว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่พิพาทจากสามีโจทก์แล้ว โจทก์มาฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2510 ถือได้ว่าเป็นการฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินหนึ่งปี โจทก์เสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองไปเด็ดขาดก่อนฟ้องแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เดิมนายจินต์สามีโจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินหนึ่งแปลงเนื้อที่ ๑ งาน ๖๒ ตารางวา เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ นายจินต์นำช่างแผนที่ทำการรังวัดเพื่อออกโฉนดเจ้าพนักงานกันเขตทางตะวันตกเป็นทางสาธารณะส่วนหนึ่ง คงเหลือที่ดินที่จะออกโฉนด ๙๘ เศษแปดส่วนสิบตารางวา ตามใบไต่สวนเลขที่ ๑๓๖ จำเลยคัดค้านว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของจำเลย โดยนายจินต์ขายให้พร้อมกับที่ดินโฉนดที่ ๑๒๒๐๖ นายจินต์จึงฟ้องจำเลยตามสำนวนคดีแพ่งดำศาลจังหวัดราชบุรี ๖๙/๒๕๐๗ ระหว่างพิจารณานายจินต์ป่วยจึงถอนฟ้องวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๐๙ นายจินต์ถึงแก่กรรม โจทก์ครอบครองที่ดินแปลงนี้ต่อมา ขอให้ศาลพิพากษาว่าที่ดินตามใบไต่สวนเลขที่ ๑๓๖ ซึ่งจะออกเป็นโฉนด ๑๕๘๘๔ เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์
จำเลยให้การว่า ที่พิพาทเป็นที่งอกริมตลิ่งของโฉนดเลขที่ ๑๒๒๐๖ ซึ่งนายจินต์สามีโจทก์ขายให้พร้อมกับที่ดินโฉนด ๑๒๒๐๖ เดิมเป็นผืนเดียวกันแต่ริมแม่น้ำมีทางเดินเล็ก ๆ ผ่านตลอดทุกแปลง ต่อมาทางเทศบาลขอขยายทางเดินให้กว้างออก ได้กลายสภาพเป็นทางใช้ประจำ เมื่อซื้อที่ดินดังกล่าวแล้ว จำเลยฝ่ายเดียวครอบครองที่พิพาทมาโดยสงบเปิดเผยเจตนาเป็นเจ้าของติดต่อกันมาเกินกว่า ๑๐ ปี ได้กรรมสิทธิ์แล้ว เมื่อนายจินต์ถอนฟ้องคดีที่ฟ้องจำเลย เจ้าพนักงานที่ดินได้ออกโฉนดแก่จำเลยเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๐๘ โฉนดเลขที่ ๑๕๘๘๔ โจทก์มาฟ้องเรียกสิทธิครอบครองอีกเป็นการไม่ชอบ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ฟ้องซ้ำ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายจินต์สามีโจทก์ขายที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๒๐๖ พร้อมกับที่พิพาทให้จำเลยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๙ แล้ว นายจินต์ไม่ได้ครอบครองที่พิพาทอีกเลย ไม่จำต้องวินิจฉัยข้อตัดฟ้องของจำเลยให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ตามฟ้องโจทก์กล่าวว่าที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่าเมื่อปรากฏว่าสามีโจทก์เคยไปขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่พิพาทเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๖ จำเลยคัดค้านว่า ที่พิพาทเป็นของจำเลยโดยสามีโจทก์ขายให้และครอบครองตลอดมาแสดงว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทจากสามีโจทก์แล้ว โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๑๐ ถือได้ว่าเป็นการฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินกว่าหนึ่งปีโจทก์เสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองไปเด็ดขาดแล้วตั้งแต่ก่อนฟ้อง
พิพากษายืนในผลที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง

Share