คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1161/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หาว่าลอบใช้เครื่องจักร์โดยไม่มีสิทธิเปนหมิ่นประมาท หาว่าเปนเจ๊กกุลีไม่เปนหมิ่นประมาทการใส่ความผู้อื่นตาม ม.282 หรือหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตลอดจนการโฆษณาหมิ่นประมาทตาม ม.339 ข้อ 2-3 ผู้นั้นต้องมีผิดในทางอาชญาหาใช่แต่ผิดในทางแพ่งไม่ ประมวลแพ่ง ม.423

ย่อยาว

ปัญหามีว่าข้อความที่จำเลยส่งไปลงในหนังสือพิมพ์ว่าโจทก์ว่า ” โจทก์ได้ลอบใช้เครื่องจักร์บีบน้ำมันโดยไม่มีสิทธิที่จะใช้” อย่างหนึ่ง และว่า ” จะไม่ขอโต้ตอบกับโจทก์ เพราะจำเลยไม่เคยเปนเจ๊กกุลีมาแต่ก่อน จึงไม่อยากจะนำพิมเสนไปแลกกับเกลือ ” อีกอย่างหนึ่งดังนี้ จะเปนการหมิ่นประมาทโจทก์ตามกฎหมายหรือไม่
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินว่า เปนการหมิ่นประมาทโจทก์ตาม ม. ๒๘๒ ให้ปรับจำเลย ๓๐๐ บาท
จำเลยฎีกาเปนปัญหากฎหมายว่า การที่จะวินิจฉัยว่าข้อความใดเปนหมิ่นประมาทหรือไม่นั้น ต้องอาศัยความเห็นของคนธรรมดาและหากจะวินิจฉัยว่าเปนหมิ่นประมาทแล้ว จำเลยควรมีผิดในทางแพ่งเท่านั้น
ศาลฎีกาตัดสินว่า ข้อความอันแรกนั้นเปนการหมิ่นประมาทโจทก์ตาม ม.๒๘๒ เพราะเปนการแสดงเจตนาร้ายของจำเลยแกล้งใส่ความโจทก์ว่าเปนคนไร้ความสุจริต อันทำให้โจทก์เสียหายในอาชีพและเกียรติคุณความดี ส่วนข้อความอันหลังไม่เปนหมิ่นประมาท เพราะไม่ทำให้โจทก์เสียหายอย่างใด ข้อที่จำเลยเถียงว่าแม้จำเลยจะมีผิดก็เปนแต่ในทางแพ่งนั้น ฟังไม่ได้ เพราะตามกฎหมายเมื่อผู้ใดใส่ความผู้อื่นตามบัญญัติแห่ง ม.๒๘๒ หรือหมิ่นประมาทซึ่งหน้าตลอดจนการโฆษณาหมิ่นประมาทตาม ม.๓๓๙ ข้อ๒-๓ ผู้นั้นต้องมีผิดในทางอาชญาหาใช่ผิดแต่ในทางแพ่งไม่ จึงตัดสินลงโทษจำเลยยืนตามศาลล่าง

Share