คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อ้างว่ามีการแบ่งปันทรัพย์มรดกกันแล้ว ต้องพิศูจน์ให้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งว่า ต่างเข้าครอบครองทรัพย์สินเป็นสัดส่วนหรือโดยการขายทรัพย์มรดกแล้วเอาเงินที่ขายได้มาแบ่งปันกันหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือตกลงกันอย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดหรือต้องแทนของฝ่ายนั้นเป็นสำคัญ
เมื่อฟังว่าโจทก์จำเลยเป็นทายาทและปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาก็ต้องปรับด้วยมาตรา 1748 ดังนี้แม้โจทก์จะฟ้องขอแบ่งมรดก เมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายแล้วก็ตาม คดีโจทก์ก็หาขาดอายุตาม ม.1754 ไม่

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยที่ ๑ เป็นบุตรฝาแฝดของนายไชยวงศ์นางสุ่ม นายไชยวงศ์นางสุ่มมีบุตรอีกคนหนึ่งชื่อนายแก้ว นางสุ่มตายก่อนนายไชยวงศ์ตายมีทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้อง โจทก์จำเลยได้ปกครองร่วมกันมายังมิได้แบ่งปัน ส่วนนายแก้วได้แสดงเจตนาสละมรดกและตายมา ๖ ปีแล้ว เมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ ๑ ได้ขออนุญาตโจทก์นำที่พิพาทไปจำนองต่อสหกรณ์เป็นเงิน ๔๐๐ บาท และจำเลยได้ไถ่ถอนคืนมาได้ปีเศษแล้ว ครั้นเมื่อประมาณ ๒ เดือนนี้จำเลยที่ ๒ ได้เอาทรัพย์พิพาทรวมกับทรัพย์ของจำเลยเข้าจำนองต่อสหกรณ์อีก โจทก์ได้ไปขอให้แบ่งเป็นส่วนของโจทก์ออกให้โจทก์เสียก่อนจำเลยจะแบ่งให้โจทก์ไม่ถึงครึ่งโจทก์ไม่ยอม จึงขอให้บังคับจำเลยแบ่งทรัพย์พิพาทให้แก่โจทก์ครึ่งหนึ่งเป็นราคา ๓,๗๒๕ บาท
จำเลยรับว่าโจทก์กับจำเลยที่ ๑ เป็นญาติจริงตามฟ้อง แต่ต่อสู้ว่าทรัพย์พิพาทเป็นมรดกบางส่วน บางส่วนเป็นของจำเลย ส่วนที่เป็นมรดกนั้น โจทก์จำเลยและนายแก้วต่างได้แบ่งปันกันเสร็จสิ้นแล้ว จำเลยก็ปกครองเป็นเจ้าของตลอดมาโจทก์ไม่ได้ปกครองร่วม ตัวเรือนทรัพย์อันดับ ๒ เป็นของโจทก์เองหาใช่เป็นทรัพย์ตามฟ้องไม่ จำเลยเอาทรัพย์พิพาทไปจำนองต่อสหกรณ์ในนามของจำเลยเป็นเจ้าของโดยโจทก์ไม่ได้เกี่ยวข้อง ราคาทรัพย์โจทก์ตั้งมาสูงเกินสมควร แม้โจทก์จะมีส่วนได้ก็เพียง ๑ ใน ๓ ของทรัพย์พิพาท และต่อสู้ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ทางพิจารณาโจทก์จำเลยรับกันว่า นางสุ่มตายกว่า ๓๐ ปีแล้ว นายไชยวงศ์ตายมาได้ ๒๒ มีทรัพย์พิพาทตามบัญชีท้ายฟ้องอันดับ ๑ และ ๔ เดิมเป็นของนายไชยวงศ์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความมรดกตาม ป.พ.พ.ม. ๑๗๕๔ พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์จำเลยได้ปกครองทรัพย์มรดกร่วมกันมาเกิน ๑ ปี คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ และโจทก์ไม่จำเป็นต้องฟ้องภายใน ๑ ปี ตาม ป.พ.พ.ม.๑๗๔๘ พิพากษากลับศาลชั้นต้น ฟังว่าทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องทั้งหมดเป็นของนายไชยวงศ์ ซึ่งโจทก์จำเลยมิได้แบ่งกันให้จำเลยแบ่งให้โจทก์กึ่งหนึ่งตามฟ้อง ถ้าไม่ตกลง ให้ประมูลระหว่างกันเองหรือขายทอดตลาดได้เงินเท่าใดให้แบ่งใช้ค่าธรรมเนียมทั้ง ๒ ฝ่าย และค่านายฝ่ายละ ๑๐๐ บาทก่อนเหลือเท่าใดแบ่งคนละครึ่ง
จำเลยทั้ง ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า โจทก์จำเลยได้ปกครองทรัพย์พิพาทร่วมกันมา จำเลยจะยกอายุความมรดกขึ้นเป็นข้อคัดค้านมิได้ ที่จำเลยอ้างว่าได้ตกลงแห่งมรดกให้โจทก์เสร็จสิ้นแล้วนั้น พยานจำเลยแตกต่างฟังไม่ได้ ทั้งมิได้หนังสือเป็นหลักฐานลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดตาม ป.พ.พ.ม.๑๗๕๐ จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share