แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1693 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ทำพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนเสียทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในเวลาใดก็ได้. มีความหมายว่า ถ้าผู้ทำพินัยกรรมไม่พอใจในพินัยกรรมที่ตนทำไว้ ย่อมแสดงเจตนาเพิกถอนเสียทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในเวลาใดๆ ก็ได้ก่อนผู้ทำพินัยกรรมตาย. แต่วิธีการเพิกถอนต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับ ซึ่งมีบัญญัติไว้ตั้งแต่มาตรา 1694ถึง 1697. กฎหมายไม่ได้แยกมาตรา 1693 เป็นเอกเทศมีวิธีการเพิกถอนอยู่ในตัว.
การที่ผู้ทำพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองยื่นคำร้องต่อนายอำเภอขอถอนพินัยกรรม.โดยมิได้ร้องขอทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรม. และนายอำเภอก็สั่งแต่เพียงให้รวมคำร้องเก็บไว้ในเรื่อง. ไม่ถือว่าได้มีการทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมแต่ประการใด. พินัยกรรมจึงยังคงมีผลใช้บังคับอยู่. (อ้างฎีกาที่ 838/2508).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกมรดกที่ดินสวนมะพร้าว 1 ใน 3 ส่วนตามพินัยกรรมเอกสารฝ่ายเมืองของนายเชย มีเพียรเจ้ามรดก จำเลยต่อสู้ว่า เจ้ามรดกได้ยื่นคำร้องขอเพิกถอนพินัยกรรมต่อนายอำเภอแล้ว ที่ดินสวนมะพร้าวจึงตกได้แก่จำเลย ทายาทโดยธรรม ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความแล้วสั่งงดสืบพยาน และพิพากษาว่าการที่เจ้ามรดกมีหนังสือแสดงเจตนาขอให้นายอำเภอเพิกถอนพินัยกรรมไม่มีผลทำให้พินัยกรรมถูกเพิกถอน พิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินสวนมะพร้าวให้แก่โจทก์ตามฟ้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1693บัญญัติไว้เป็นหลักว่า “ผู้ทำพินัยกรรมจะเพิกถอนพินัยกรรมของตนเสียทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในเวลาใดก็ได้” มีความหมายว่า ถ้าผู้ทำพินัยกรรมไม่พอใจอาจจะแสดงเจตนาเพิกถอนเสียทั้งหมดหรือแต่บางส่วนในเวลาใด ๆ ก็ได้ก่อนที่ผู้นั้นตาย แต่วิธีการเพิกถอนนั้นกฎหมายบังคับให้ผู้ทำพินัยกรรมปฏิบัติ มีบัญญัติไว้ตั้งแต่มาตรา1694 ถึงมาตรา 1697 จึงเห็นได้ชัดว่ากฎหมายไม่ได้แยกมาตรา 1693เป็นเอกเทศ มีวิธีการเพิกถอนอยู่ในตัวของมันเองดังจำเลยฎีกา สำหรับกรณีพิพาทในคดีนี้ต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1695วรรคแรก ผู้ทำพินัยกรรมต้องทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมฉบับนี้เสียตราบใดที่พินัยกรรมฉบับนี้ยังไม่ถูกทำลายหรือยังไม่ถูกขีดฆ่าด้วยความตั้งใจ พินัยกรรมฉบับนี้ก็ยังมีผลใช้บังคับได้อยู่ ตามคำร้องของนายเชยที่ยื่นต่อนายอำเภอเกาะสมุยมีข้อความแต่เพียงว่า ผู้ทำพินัยกรรมประสงค์ขอถอนพินัยกรรมฉบับนี้เท่านั้นหาได้ร้องขอทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมไม่ และนายอำเภอก็สั่งแต่เพียงให้รวมคำร้องเก็บไว้ในเรื่องเท่านั้น ไม่ถือว่าได้มีการทำลายหรือขีดฆ่าพินัยกรรมแต่ประการใด พินัยกรรมของนายเชยจึงยังมีผลใช้ได้ตามนัยฎีกาที่ 838/2508 พิพากษายืน.