คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยืมเงินผู้เสียหายไปโดยนำเอาเช็คของผู้อื่นมามอบให้ไว้เพื่อชำระหนี้และได้ลงชื่อสลักหลังเช็คนั้นไว้ให้ด้วย เมื่อถึงวันใช้เงินตามเช็ค ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ ก็มีสิทธิจะเรียกร้องทางแพ่งให้ผู้สั่งจ่ายหรือจำเลยผู้สลักหลังชำระเงินตามเช็คได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ก.จำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าเช็คที่จำเลยนำมามอบให้แก่ผู้เสียหายเป็นเช็คของพี่ชายจำเลย จำเลยรู้ฐานะการเงินของผู้สั่งจ่ายดีว่า สามารถใช้เงินตามเช็คได้ซึ่งความจริงไม่ใช่เป็นเช็คของพี่ชายจำเลย และผู้สั่งจ่ายก็มีฐานะการเงินไม่ดีไม่สามารถใช้เงินตามเช็คได้ โดยการหลอกลวงดังว่านั้น จำเลยได้เงินจากผู้เสียหายไป
ข. จำเลยกับพวกซึ่งศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วได้ร่วมกันออกเช็คฉบับดังกล่าว แล้วจำเลยได้นำไปมอบให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินยืมผู้เสียหายได้นำเช็คดังกล่าวเข้าบัญชีแต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน เพราะบัญชีผู้สั่งจ่ายปิดแล้ว ทั้งนี้ โดยจำเลยกับพวกร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และจำเลยกับพวกไม่ได้นำเงินตามเช็คไปชำระให้ผู้เสียหายขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๑, ๘๓ พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ และให้คืนหรือใช้เงินแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ข้อหาฐานร่วมกันออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงินนั้น โจทก์นำสืบเพียงแต่ว่าจำเลยนำเช็คซึ่งมีผู้สั่งจ่ายมาใช้ชำระหนี้เท่านั้น จึงลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้ แต่ในข้อหาฐานฉ้อโกงฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาให้จำคุก ๖ เดือนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๔๑ และให้ใช้เงินกู้แก่ผู้เสียหายด้วย ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ไม่เชื่อว่าผู้เสียหายรับเช็คไว้ เพราะหลงเชื่อคำหลอกลวงของจำเลย ไม่เชื่อว่าจำเลยมอบเช็คให้โดยทุจริต และไม่เชื่อว่าจำเลยมอบเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ฐานฉ้อโกงเสียด้วย
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษฐานฉ้อโกง
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อจำเลยนำเช็คมายืมเงินไป จำเลยได้ลงชื่อสลักหลังเช็คไว้ให้ด้วย ซึ่งตามกฎหมายเมื่อถึงกำหนดวันใช้เงินตามเช็ค ผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้ ก็มีสิทธิจะไปเรียกร้องทางแพ่งให้ผู้สั่งจ่ายหรือจำเลยผู้สลักหลังชำระเงินตามเช็คได้ ฉะนั้น แม้จำเลยจะบอกว่าเช็คของพี่ชายจำเลยเองหรือไม่ ก็ไม่สำคัญแก่ความรับผิดทางแพ่งหรือความผิดทางอาญาฐานฉ้อโกง ส่วนข้อที่ผู้สั่งจ่ายมีฐานะดี สามารถใช้เงินตามเช็คได้นั้น แม้จะฟังว่าจำเลยกล่าวคำข้อนี้จริง ผู้เสียหายหรือโจทก์ก็จะอ้างว่าเป็นความเท็จยังไม่ได้ เพราะจำเลยนำเช็คของผู้อื่นมาชำระหนี้ผู้เสียหาย เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๐๙ แต่วันถึงกำหนดการใช้เงินตามเช็คเป็นวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๐๔ ซึ่งเป็นเวลาในอนาคตที่ไม่มีใครจะรู้ได้ว่า เมื่อถึงวันในอนาคตดังกล่าว ผู้สั่งจ่ายจะสามารถใช้เงินได้หรือไม่ได้ ถึงแม้บัญชีของผู้สั่งจ่ายเช็คจะปิดเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๐๙ โจทก์ก็มิได้ฟ้องว่าจำเลยรู้อยู่แล้วว่า บัญชีของนายกิมกอ ผู้สั่งจ่ายจะปิดในวันนั้นอย่างแน่นอน และจำเลยยังสลักหลังเช็คให้ไว้ด้วยเพื่อความรับผิดของจำเลยในทางแพ่งอยู่แล้ว คดีไม่มีทางลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงได้
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share