คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บุตรที่เกิดจากมารดาซึ่งมิได้จดทะเบียนสมรสกับบิดานั้น เมื่อบิดาได้ไปแจ้งให้อำเภอลงทะเบียนสำมโนครัวว่าเด็กนั้นเป็นบุตรตนและอยู่กับตนนั้นย่อมเป็นการเพียงพอที่จะฟังว่าบิดาได้รับรองแล้วว่าเด็กนั้นเป็นบุตรของเขาและบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้วเช่นนี้ ป.พ.พ.มาตรา 1627 ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
(อ้างฎีกาที่ 1601/2492)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายหวานได้ขายที่ดินโฉนดที่ ๓๗๖๖ ให้ฝ่ายโจทก์ การซื้อขายไม่ได้ทำเป็นหนังสือ คงมอบแต่ที่ดินให้ฝ่ายโจทก์ปกครอง บัดนี้นายหวานตายจำเลยไปร้องขอรับมรดก จึงขอให้ห้ามอย่าให้จำเลยมาเกี่ยวข้อง
จำเลยต่อสู้ว่า นายหวานไม่ได้ขายที่ดินให้ฝ่ายโจทก์ ชั้นอำเภอจำเลยไปขอรับมรดกนายหวานในนามของบุตรจำเลยซึ่งเป็นทายาทของนายหวาน แล้วจำเลยยื่นคำร้องในฐานะเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กหญิงมะลิบุตรจำเลยขอเข้าเป็นจำเลยร่วม
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายหวาน จึงไม่มีสิทธิเกี่ยวกับที่พิพาท ส่วนเด็กหญิงมะลิยังมิได้มีการจดทะเบียนรับรองว่าเป็นบุตร และไม่มีคำพิพากษาว่าเป็นบุตร จึงจะเข้ามาเป็นจำเลยร่วมไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่ปรากฎในคำให้การจำเลยว่า จำเลยกระทำในฐานะเป็นตัวแทนเด็กด้วย และในการชี้สองสถานโจทก์ก็เป็นอันรับในข้อที่ว่าจำเลยกระทำในฐานะเป็นตัวแทนเด็กหญิงมะลิด้วยจริง โจทก์คงโต้เถียงอยู่เพียงว่าบุตรนายหวานเป็นบุตรนอกกฎหมายไม่มีสิทธิรับมรดกนายหวาน คดีจึงมีประเด็นที่จะต้องพิจารณาสิทธิของเด็กหญิงมะลิก่อนว่าจะรับมรดกนายหวานได้ตามกฎหมายหรือไม่ เด็กหญิงมะลิจึงชอบที่จะร้องสอดเข้ามาเป็นจำเลยร่วมได้
ส่วนข้อกฎหมายเรื่องสิทธิรับมรดกนายหวานนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันแล้วว่า นายหวานได้ไปแจ้งให้อำเภอลงทะเบียนสำมะโนครัวว่า เด็กหญิงมะลิเป็นบุตรและอยู่กับนายหวานนั้นเป็นการเพียงพอที่จะฟังได้ว่านายหวานได้รับรองแล้วว่าเด็กหญิงมะลิเป็นบุตรเขา และบุตรนอกกฎหมายที่บิดาได้รับรองแล้วเช่นนี้ ป.พ.พ.มาตรา ๑๖๒๗ ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ฉนั้นเด็กหญิงมะลิจึงมีสิทธิรับมรดกนายหวานได้ตามมาตรา ๑๖๒๙ (๑) รูปคดีเช่นนี้ศาลฎีกาได้วินิจฉัยมาแล้วในคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๖๐๑/๒๔๙๒
จึงพิพากษาให้ยก
คำพิพากษาศาลล่างทั้ง ๒ อนุญาตให้เด็กหญิงมะลิโดยนางชั้นเป็นผู้แทนโดยชอบธรรมเข้าเป็นจำเลยร่วม และให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาคดีนี้ใหม่

Share