คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1153/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ถอนข้าวกล้าของเขาซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของผู้อื่น ไม่ใช่ที่ดินของจำเลย ย่อมเป็นการทำละเมิด
การสั่งอนุญาตให้ร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ ไม่มีกฎหมายบังคับให้ไต่สวนก่อน
เมื่อผู้ร้องสอดเป็นผู้เสียหายและศาลอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์แล้ว ศาลก็ย่อมให้ชนะคดีจำเลยได้
แม้มีผู้คัดค้านการขอใบเหยียบย่ำ ถ้าผู้คัดค้านไม่มีสิทธิครอบครองอำเภอก็ออกใบเหยียบย่ำให้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเข้าถอนข้าวกล้าของโจทก์เสียหาย ขอให้ใช้ค่าเสียหาย ๑๖๐ บาท จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย และที่นั้นเป็นของจำเลยต่อมานายโต๊ะหมัดร้องสอดเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต
ศาลชั้นต้นฟังว่าที่เป็นของโจทก์ และจำเลยถอนข้าวของผู้ร้องสอด ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ร้องสอดศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ๑. ที่ว่าศาลสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้าในคดีโดยไม่ได้ส่วนเสียก่อนศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีกฎหมายบังคับให้ไต่สวนก่อนสั่งอนุญาต
๒. ที่พิพาทเป็นของโจทก์จำเลยถอนต้นข้าวของผู้ร้องสอดที่ปักดำไว้ในที่ของโจทก์ จึงเป็นการละเมิด
๓. ที่ว่าให้ผู้ร้องสอดชนะคดีเป็นการฝ่าฝืนมาตรา ๕๘ วรรค ๒ แห่งวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้ร้องสอดเป็นผู้เสียหายและศาลอนุญาตให้เข้าเป็นโจทก์ร่วมแล้ว จึงชนะคดีได้
๔. ว่าอำเภอออกใบเหยียบย่ำให้โจทก์ทั้งที่จำเลยคัดค้าน เป็นการมิชอบตามพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๔๗๙ มาตรา ๗ นั้น จำเลยไม่มีสิทธิครอบครองกฎหมายที่จำเลยยกขึ้น ฎีกาจึงไม่ช่วยให้ชนะคดี

Share