คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1149/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช่าตึกแถวในย่านการค้าไว้สำหรับเก็บสินค้าและให้ลูกจ้างมาอยู่อาศัยเพื่อเฝ้าดูแลสินค้า ส่วนตัวผู้เช่าและครอบครัวตั้งร้านค้าขายอยู่อีกแห่งหนึ่งต่างหาก ดังนี้ แม้ผู้ให้เช่าจะได้รู้เห็นยินยอมด้วยแต่แรก ในการที่ลูกจ้างของจำเลยเข้าไปอยู่อาศัยในห้องเช่า ผู้เช่าก็มิได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
สัญญาเช่าซึ่งตกลงเก็บค่าเช่ากันเป็น 2 ระยะ คือในชั้นแรกคิดค่าเช่ากันเป็นรายเดือนเมื่อครบกำหนดสัญญาเช่า ถ้าผู้เช่ามิได้ตกลงทำสัญญาเช่ากันใหม่ แต่ยังคงใช้ห้องเช่าต่อไปก็ให้ถือว่าเช่ากันต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลาโดยยอมให้ค่าเช่าวันละ 5 บาททุกวันไปจนกว่าจะมอบห้องคืน ดังนี้ เมื่อคู่สัญญาทำกันด้วยความสมัครใจก็ย่อมมีผลผูกพันกันตามกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้เช่าตึกแถวของโจทก์ ๒ ห้องอยู่ถนนจอมพล ตำบลในเมือง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นที่ไว้สินค้าเท่านั้น ไม่ใช่เป็นที่อยู่อาศัย สัญญาเช่าหมดอายุแล้วมิได้ขอเช่าต่อ โจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยก็ยังขัดขืนอยู่ต่อมา จึงขอให้ขับไล่และเรียกค่าเช่า ค่าเสียหายระหว่างที่ยังไม่ออก
จำเลยต่อสู้ว่า ได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยด้วย จึงได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ
ข้อเท็จจริงคงได้ความ แถวห้องเช่าพิพาทและข้างเคียงต่างเป็นร้านค้าขาย จำเลยตั้งร้านค้าขายอยู่อีกแห่งหนึ่งต่างหาก แต่มีคนอยู่ด้วยกันมาก วางสินค้าขายด้วยไม่พออยู จึงได้เช่าห้องพิพาทเพื่อให้คนงานอยู่อาศัยและเป็นที่เก็บสินค้า
ศาลชั้นต้นเห็นว่าห้องเช่าพิพาทเป็นเคหะย่อมได้รับความคุ้มครองตามพ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯ จึงพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยเช่าตึกแถวพิพาทมิได้ตั้งใจเช่าเป็นที่อยู่อาศัยของจำเลยและครอบครัว แต่เช่าเพื่อสำหรับเก็บสินค้าเท่านั้นและเป็นธรรมดาอยู่เอง จำเลยจะต้องให้ลูกจ้างมาอยู่อาศัยเพื่อเฝ้าดูแลสินค้าเหล่านั้น มิฉนั้นสินค้าอาจสูญหาย การที่ลูกจ้างของจำเลยเข้าไปอยู่อาศัยในห้องพิพาทแม้โจทก์จะได้รู้เห็นยินยอมด้วยแต่แรก จำเลยก็มิได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่า ฯลฯ เมื่อหมดอายุสัญญาเช่าแล้วโจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญากับจำเลยได้ ตามสัญญาเช่ามีข้อความว่า ก่อนครบกำหนดสัญญาเช่า ถ้าจำเลยผู้เช่ามิได้ตกลงกับโจทก์ผู้ให้เช่า เพื่อทำสัญญาเช่ากันใหม่ แต่จำเลยยังคงใช้ห้องเช่าก็ให้ถือว่าเช่ากันต่อไปโดยไม่มีกำหนดเวลา จำเลยยอมให้ค่าเช่าแก่โจทก์เป็นรายวัน ๆ ละ ๕ บาททุกวันไปจนกว่าจะมอบห้องคืนอันเป็นข้อตกลงค่าเช่ากันไว้ก่อนเป็น ๒ ระยะด้วยความสมัครใจ ย่อมมีผลผูกพันกันตามกฎหมาย โจทก์ย่อมมีสิทธิได้ค่าเช่าตามสัญญา
จึงพิพากษากลับให้จำเลยจัดการขนสินค้าออกจากตึกเช่าของโจทก์ ให้จำเลยเสียค่าเช่าแก่โจทก์วันละ ๕ บาทตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ถึง ๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ เป็นเงิน ๓๕ บาทกับเสียค่าเสียหายอีกวันละ ๕ บาทจนกว่าจะมอบตึกคืน ฯลฯ

Share