คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1148/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้อง หันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1 ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่2ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 249, 53

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายนายคนถึงตายตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙, ๒๕๐, ๖๓ จำเลยให้การภาคเสธ ต่อสู้ว่า จำเลยได้ทำร้ายนายคนเพื่อป้องกันตัว เพราะนายคนบุกรุกพาอาวุธปืนจะไปยิงจำเลยถึงบนเรือน ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำร้ายนาคนเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙ ประกอบด้วยมาตรา ๕๓, ๖๐ ให้จำคุกคนละ ๕ ปี ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง คืนของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายได้ถือปืนแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ ๑ เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากลูกเลื่อนเอาลูกขึ้นลำกล้อง หันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ ๑ ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันหลายที แล้วเรียกจำเลยที่ ๒ มาช่วย จำเลยที่ ๒ เอาดาบฟันไปหลายที ปืนหลุดจากมือนายคน สักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล ๓๘ แห่ง และเห็นว่าอาวุธปืนยาวนั้น ถ้าได้เข้ากระชั้นยื้อแย่งกันแล้ว ก็ยากที่จะใช้ปืนนั้นยิงให้ถูกอีกฝ่ายหนึ่งได้ จำเลยที่ ๑ ได้โดดเข้าแย่งปืนแล้ว ใช้ขวานฟันนายคนเป็นการสมควร แต่ในตอนที่จำเลยที่ ๒ เข้ามาช่วยจำเลยที่ ๑ รุมใช้ดาบฟันอย่าไม่ยับยั้ง จนนายคนมีบาดแผล ๓๘ แผล เป็นแผลฉะกรรจ์ ๆ อยู่เป็นอันมาก จนนายคนล้มลงขาดใจตายในที่เกิดเหตุ เป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อห้องกันชีวิตและต่างกายของจำเลย ๆ ทั้งสองมีความผิดมาตรา ๒๔๙ ประกอบด้วยมาตรา ๕๓ พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยคนละ ๑ ปี ของกลางริบ+

Share