คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1146/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 นั้น เกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน
โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค โดยบรรยายฟ้องว่า “……เมื่อวันที่ …. พฤษภาคม 2523 (ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน” ถือไม่ได้ว่าเป็นการระบุวันกระทำผิดหรือวันที่ความผิดเกิดขึ้น จึงเป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจจ่ายเช็คธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาชลบุรี เลขที่ ๒๐๖๗๑๖๔ ลงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๓ จำนวนเงิน ๔๒,๐๐๐ บาทให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการชำระหนี้ เมื่อวันที่…พฤษภาคม ๒๕๒๓ (ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาชลบุรี แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ปัญหาว่าคำบรรยายฟ้องของโจทก์ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ หรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ นั้น ความผิดเกิดขึ้นในวันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ในคำฟ้องแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๒๓ แต่ก็ปรากฏในคำฟ้องนั้นเองว่าวันดังกล่าวเป็นวันที่จำเลยจ่ายเช็คให้แก่โจทก์ และลงวันที่สั่งจ่ายวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๒๓ ดังนั้น วันที่ซึ่งโจทก์ระบุในฟ้องทั้งสองวันจึงหาใช่วันที่ความผิดเกิดขึ้นไม่
ส่วนวันที่โจทก์นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันถือว่าเป็นวันที่ความผิดเกิดขึ้นนั้น โจทก์บรรยายฟ้องว่า “เมื่อวันที่ …พฤษภาคม๒๕๒๓ (ไม่ได้ระบุวันที่) โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเบิกเงินจากธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน” ศาลฎีกาเห็นว่า คำบรรยายฟ้องดังกล่าวถือไม่ได้ว่าเป็นการระบุวันกระทำผิด หรือวันที่ความผิดเกิดขึ้น แม้จะระบุเดือนและปี แต่เดือนพฤษภาคมมีถึง ๓๑ วันจึงไม่อาจทราบได้ว่าจำเลยกระทำผิดหรือความผิดเกิดขึ้นวันใดในเดือนพฤษภาคม ๒๕๒๓ ที่โจทก์ฎีกาว่าในชั้นไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ได้ส่งหลักฐานแสดงการปฏิเสธการจ่ายเงินคือใบคืนเช็คต่อศาลแล้วนั้น เห็นว่าการที่โจทก์นำสืบหลักฐานการคืนเช็คในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง หาอาจทำให้คำฟ้องที่ไม่สมบูรณ์กลายเป็นคำฟ้องที่สมบูรณ์ไปได้ไม่ ที่ศาลล่างพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์นั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share