คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2540

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องเป็นคนขายกุ้งให้ผู้คัดค้านไม่ใช่จำเลยโจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้อายัดเงินค่ากุ้งที่ขายให้แก่ผู้คัดค้านตามที่ศาลมีคำสั่งอายัดเงินดังกล่าวจากผู้คัดค้านไว้ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาขอให้เพิกถอนการอายัดเงินดังกล่าวดังนี้สิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ผู้ร้องอ้างมิใช่เป็นบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่นซึ่งผู้ร้องอาจร้องขอให้บังคับได้ตามกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา287และไม่ใช่การขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ตามมาตรา288หากผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้คัดค้านจริงผู้ร้องก็มีเพียงสิทธิเรียกร้องให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ให้ตนเท่านั้นไม่มีสิทธิที่จะบังคับจากเงินที่ผู้คัดค้านรับว่าเป็นหนี้จำเลยและได้ส่งมาตามที่ศาลอายัดดังกล่าวผู้ร้องชอบที่จะไปว่ากล่าวเอาแก่ผู้คัดค้านเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน 1,475,517.65 บาท กับดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 1,430,805 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ระหว่างพิจารณาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยได้ขายกุ้งให้แก่บริษัทไพบูลย์กุ้งทอง จำกัด ผู้คัดค้านเป็นเงิน 1,300,000 บาท ขณะนี้ผู้คัดค้านยังไม่ได้ชำระเงินค่ากุ้งดังกล่าวให้แก่จำเลย ขอให้อายัดเงินจำนวนดังกล่าวชั่วคราวศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว มีคำสั่งให้อายัดเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้คัดค้านชั่วคราว
นายมานพหรือสุเทพ รัตนเดชากร ผู้ร้อง ยื่นคำร้องว่าจำเลยไม่ได้ขายกุ้งให้แก่ผู้คัดค้าน แต่ผู้ร้องเป็นคนขายกุ้งให้แก่ผู้คัดค้าน โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้อายัดเงินจำนวนดังกล่าวจากผู้คัดค้าน ขอให้เพิกถอนการอายัดเงินชั่วคราว
โจทก์ จำเลยและผู้คัดค้านต่างยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยขายกุ้งให้แก่ผู้คัดค้าน ส่วนผู้ร้องไม่ได้ขายกุ้งให้แก่ผู้คัดค้านผู้ร้องจึงไม่มีสิทธิในเงินที่โจทก์ขออายัดดังกล่าว ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ผู้ร้องเป็นบุคคลภายนอกคดี ไม่มีกฎหมายให้สิทธิแก่ผู้ร้องที่จะดำเนินการเช่นนี้ได้ เป็นเรื่องที่ผู้ร้องชอบที่จะดำเนินการกับผู้คัดค้านหรือจำเลยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้ร้อง อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้อง ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องมีสิทธิคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้อายัดเงินดังกล่าวได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287, 288หรือไม่นั้น เห็นว่า สิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ผู้คัดค้านที่ผู้ร้องอ้างมิใช่เป็นบุริมสิทธิหรือสิทธิอื่นซึ่งผู้ร้องอาจร้องขอให้บังคับได้ตามกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 287 และกรณีตามคำร้องก็ไม่ใช่การขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดไว้ตามมาตรา 288 หากผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้คัดค้านจริงผู้ร้องก็มีเพียงสิทธิเรียกร้องให้ผู้คัดค้านชำระหนี้ให้ตนเท่านั้น หามีสิทธิที่จะบังคับจากเงินจำนวนที่ผู้คัดค้านรับว่าเป็นหนี้จำเลยและได้ส่งมาตามที่ศาลชั้นต้นอายัดดังกล่าวไม่ ผู้ร้องชอบที่จะกล่าวเอาแก่ผู้คัดค้านเป็นอีกส่วนหนึ่งต่างหาก ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องและศาลอุทธรณ์ภาค 3พิพากษายืนนั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share