แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ขายฝากฟ้องผู้รับซื้อฝากขอให้รับเงินขายฝากและส่งมอบที่ดินคืนแต่ทางพิจารณาได้ความว่า ผู้ขายฝากได้ยอมสละสิทธิหรือระงับการใช้สิทธิไถ่ถอนคืนตามสัญญาขายฝากแล้ว คดีจึงไม่มีทางที่จะบังคับตามคำขอท้ายฟ้องได้ เพราะสิทธิการไถ่ถอนระงับไปแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาขายฝากนา 1 แปลง ไว้กับจำเลยผู้เป็นพี่เขย มีกำหนดไถ่ถอน 1 ปี ในวันครบกำหนดวันสุดท้ายโจทก์นำเงินไปชำระหนี้ไถ่ถอน จำเลยไม่ยอมรับ โจทก์ไปร้องต่ออำเภอในวันนั้น ให้จำเลยรับเงิน จำเลยไม่รับชำระหนี้ จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยรับเงินขายฝากและส่งมอบที่ดินคืนโจทก์
จำเลยให้การว่าในวันสุดท้าย โจทก์ตกลงขอเพิ่มเงิน 2,000 บาทและยอมให้นาหลุดเป็นสิทธิแต่ในวันนั้นเองโจทก์ไปขอเพิ่มเงินจากจำเลยอีก จำเลยไม่ตกลง ว่าโจทก์ไปร้องต่ออำเภอ ๆ เรียกจำเลยไปว่ากล่าวจำเลยไม่ไป เพราะเห็นว่าตกลงกับโจทก์แล้ว โจทก์ไม่มีอำนาจไถ่คืน
ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลย 1 ปาก แล้วคู่ความรับในข้อเท็จจริงว่าในวันสุดท้ายโจทก์รับเงิน 2,000 บาท นั้นแล้ว โดยไม่ได้ทำหลักฐานกันไว้ ในวันนั้นเองโจทก์ไปร้องต่ออำเภอขอไถ่ถอนการขายฝากจำเลยไม่ยอมไปศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ยอมสละสิทธิหรือระงับการใช้สิทธิไถ่ถอนคืนตามสัญญาขายฝากแล้ว ส่วนการที่จำเลยยอมให้ค่าตอบแทนจะเป็นอย่างไร จำนวนเท่าใดไม่เกี่ยวกับการใช้สิทธิไถ่ถอนคดีไม่มีทางจะบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้อีก เพราะสิทธิการไถ่ถอนระงับไปแล้ว โจทก์ไม่มีทางชนะคดี
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์