คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2473

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ปกครอง ละทิ้ง
อายุความปกครองปรปักษ์+หยุดลงเมื่อใด และต้องเริ่มนับใหม่แต่เมื่อใดเพียงแต่ให้การต่อศาลว่าตนยังคงมีกรรมสิทธิเปนเจ้าของก่อนอายุความ + – 10 ปี ถือว่ายังคงเปนเจ้าของต่อไป

ย่อยาว

ได้ความว่าที่พิพาทเปนที่มีโฉนดแผนที่ เดิม ป.เปนผู้ถือกรรมสิทธิ แต่ ป.ได้ออกจากที่นี้ไปเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ ต่อมาอีกปีหนึ่งที่แปลงนี้ถูกยึดขายทอดตลาด นายนีรับซื้อไว้และใส่ชื่อนางอินจำเลยเปนเจ้าของเมื่อวันที่ ๓๐/๕/๖๐ ต่อมานายนีตาย และวันที ๒๐/๕/๖๘ จ.ได้ฟ้องนางอินขอแบ่งมฤดกนายนี นางอินต่อสู้ว่าตนมีกรรมสิทธิเปนเจ้าของในที่รายนี้ส่วนที่รายนี้ตั้งแต่ ป.ได้ละทิ้งไปแล้วก็หามีผู้ใดเข้าปกครองไม่ มาจนเดือนกันยายน ๒๔๖๙ โจทก์ได้เข้าดายหญ้าปลูกต้นผลไม้ปกครองมาได้เพียง ๒ ปีเท่านั้นครั้น พ.ศ. ๒๔๗๑ คดีมฤดกนายนีถึงที่สุดศาลตัดสินให้ยึดที่นี้ขายทอดตลาด โจทก์จึงร้องคัดค้าน และได้ฟ้องคดีนี้ขึ้นขอให้ถอนการยึดและให้ที่เปนกรรมสิทธิแก่โจทก์
ศาลล่างทั้ง ๒ ตัดสินให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้คู่ความฎีกาได้แต่ในปัญหากฎหมาย และคดีนี้ระยะเวลาทอดทิ้งที่ดินของนางอินต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ ๓๐/๕/๖๐ และนางอินก็รับว่าได้ขาดปกครองมา ๘ ปีเท่านั้น ครั้นเมื่อนางอินถูกฟ้องเมื่อวันที่ ๒๐/๕/๖๘ ก็ต่อสู้อ้างว่ามีกรรมสิทธิในที่นี้ ดังนี้จะถือว่านางอินทอดทิ้งที่ตามความหมายแพ่ง ม.๔ พรบ ออกโฉนดที่ดินฉะบับที่ ๒ พ.ศ.๒๔๕๙ ไม่ได้ และอายุความการปกครองปรปักษ์ที่จะเปนโทษแก่นางอินซึ่งระยะเวลา ๘ ปี เปนอันสดุดหยุดลงตั้งแต่วันที่นางอินต่อสู้ว่าตนมีกรรมสิทธิในที่รายนั้น และจะต้องเริ่มนับไปใหม่ จึงตัดสินยืนตามศาลล่าง

Share