คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 114/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

ในกระบวนการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายนั้นให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการสอบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้วทำความเห็นส่งสำนวนคำขอรับชำระหนี้ต่อศาลตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 105 เพื่อศาลจะได้มีคำสั่งตามมาตรา 106 และมาตรา 107 ต่อไป การที่ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้คัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 51 เมื่อผู้คัดค้านหมายนัดให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดนำพยานมาให้ทำการสอบสวนประกอบคำคัดค้าน ผู้ร้องทั้งเจ็ดขอเลื่อนการสอบสวน ผู้คัดค้านมีคำสั่งยกคำร้อง กรณีเป็นการกระทำในขั้นตอนของการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ซึ่งยังไม่แน่ว่าผู้คัดค้านจะทำความเห็นเสนอศาลอย่างไร จะฟังตามคำคัดค้านของผู้ร้องทั้งเจ็ดหรือไม่ และเมื่อผู้คัดค้านทำความเห็นเสนอศาลแล้ว ลำพังความเห็นของผู้คัดค้านก็หามีผลแต่อย่างใดไม่ ทั้งเมื่อศาลพิจารณาตามมาตรา 106 หรือมาตรา 107 แล้วก็อาจมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ คำสั่งของผู้คัดค้านที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนการสอบสวนดังกล่าวจึงไม่เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้รับความเสียหายตามมาตรา 146 ผู้ร้องทั้งเจ็ดยังไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลกลับคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากผู้ร้องทั้งเจ็ดได้ยื่นคำโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเจ้าหนี้รายที่ 51 ผู้คัดค้านได้รับคำโต้แย้งของผู้ร้องทั้งเจ็ดและนัดสอบสวนในวันที่ 29 มกราคม 2546 เวลา 9 นาฬิกา ผู้คัดค้านได้หมายนัดแจ้งวันนัดสอบสวนให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดทราบแล้วโดยกำชับในหมายนัดว่าหากผู้ร้องทั้งเจ็ดไม่มาให้การสอบสวนในวันนัดดังกล่าวโดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องอันจำเป็นและสมควรให้ทราบล่วงหน้าก่อนวันนัด จะถือว่าผู้ร้องทั้งเจ็ดไม่ติดใจอ้างพยานหลักฐานใดเพิ่มเติมในการโต้แย้งอีก และผู้คัดค้านจะได้พิจารณาทำความเห็นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 51 เสนอศาลจากพยานหลักฐานตามที่ปรากฏในสำนวนเท่านั้น เมื่อถึงวันนัดสอบสวน ผู้รับมอบฉันทะผู้ร้องทั้งเจ็ดและผู้รับมอบฉันทะเจ้าหนี้รายที่ 51 มาพบผู้คัดค้าน โดยผู้ร้องทั้งเจ็ดได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสอบสวน อ้างเหตุว่าผู้รับมอบอำนาจผู้ร้องทั้งเจ็ดติดพิจารณาคดีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ซึ่งนัดไว้ก่อนแล้ว ไม่สามารถมาให้ผู้คัดค้านทำการสอบสวนได้ ขอเลื่อนการสอบสวน ผู้คัดค้านพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอเลื่อนการสอบสวนของผู้ร้องทั้งเจ็ด
ผู้ร้องทั้งเจ็ดยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของผู้คัดค้าน ขอศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านที่ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งเจ็ดที่ขอเลื่อนการสอบสวน และให้ผู้คัดค้านแจ้งเป็นหนังสือปฏิเสธการตีราคาทรัพย์สินอันเป็นหลักประกันที่เจ้าหนี้รายที่ 51 เสนอ
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า คำร้องขอเลื่อนการสอบสวนผู้ร้องทั้งเจ็ดไม่มีเหตุที่จะให้เลื่อนการสอบสวน คำสั่งของผู้คัดค้านที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนการสอบสวนชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้องทั้งเจ็ด
ผู้ร้องทั้งเจ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษายืน
ผู้ร้องทั้งเจ็ดฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นเจ้าหนี้รายที่ 53 ในชั้นนัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเจ้าหนี้รายที่ 51 ผู้คัดค้านได้นัดให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดในฐานะผู้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ไปให้ทำการสอบสวนในวันที่ 29 มกราคม 2546 เวลา 9 นาฬิกา ถึงวันนัดผู้ร้องทั้งเจ็ดได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสอบสวนออกไปก่อนโดยอ้างว่าผู้รับมอบอำนาจผู้ร้องทั้งเจ็ดติดการพิจารณาคดีอยู่ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ซึ่งได้นัดไว้ก่อนแล้วไม่สามารถมาให้ผู้คัดค้านทำการสอบสวนได้ ผู้คัดค้านมีคำสั่งว่า “คดีนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดเจ้าหนี้รายที่ 53 ผู้โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 51 ให้มาให้การสอบสวนและนำส่งพยานเอกสารประกอบการโต้แย้งในวันนี้ โดยเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้กำชับในหมายนัดว่าหากไม่มาให้การสอบสวนตามกำหนดวันเวลาที่นัดไว้โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้องให้ทราบล่วงหน้าก่อนวันนัดจะถือว่าไม่ติดใจอ้างพยานหลักฐานอื่นเพิ่มเติมประกอบคำร้องโต้แย้งอีก ประกอบกับเจ้าหนี้รายที่ 51… คัดค้านว่า ผู้โต้แย้งทราบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้พิจารณาคำขอตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (4) และเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ต้องพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 51 ให้แล้วเสร็จในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2546 ดังนั้น จึงไม่อาจอนุญาตให้ผู้โต้แย้งเลื่อนการให้การสอบสวนในวันนี้ได้ ยกคำร้อง…” กรณีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า คำสั่งของผู้คัดค้านที่สั่งยกคำร้องขอเลื่อนการสอบสวนของผู้ร้องทั้งเจ็ดเป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้รับความเสียหายหรือไม่ เห็นว่า ในกระบวนการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายนั้นให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการสอบสวนพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้วทำความเห็นส่งสำนวนคำขอรับชำระหนี้ต่อศาลตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 105 เพื่อศาลจะได้มีคำสั่งตามมาตรา 106 และมาตรา 107 ต่อไป การที่ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้คัดค้านคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 51 เมื่อผู้คัดค้านหมายนัดให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดนำพยานมาให้ทำการสอบสวนประกอบคำคัดค้าน ผู้ร้องทั้งเจ็ดขอเลื่อนการสอบสวน ผู้คัดค้านมีคำสั่งยกคำร้อง กรณีเป็นการกระทำในขั้นตอนของการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ซึ่งยังไม่แน่ว่าผู้คัดค้านจะทำความเห็นเสนอศาลอย่างไร จะฟังตามคำคัดค้านของผู้ร้องทั้งเจ็ดหรือไม่ และเมื่อผู้คัดค้านทำความเห็นเสนอศาลแล้ว ลำพังความเห็นของผู้คัดค้านก็หามีผลแต่อย่างใดไม่ ทั้งเมื่อศาลพิจารณาตามมาตรา 106 หรือมาตรา 107 แล้วก็อาจมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นได้ ฉะนั้นคำสั่งของผู้คัดค้านที่ไม่อนุญาตให้เลื่อนการสอบสวนดังกล่าวจึงไม่เป็นการกระทำหรือคำวินิจฉัยที่ทำให้ผู้ร้องทั้งเจ็ดได้รับความเสียหายตามมาตรา 146 ผู้ร้องทั้งเจ็ดยังไม่มีสิทธิที่จะยื่นคำร้องขอให้ศาลกลับคำวินิจฉัยของผู้คัดค้านได้ ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของผู้ร้องทั้งเจ็ดนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องทั้งเจ็ดฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share