คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1138/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาจะขายที่ดินให้ผู้ซื้อคนแรก โดยส่งมอบที่ดินให้เขาครอบครองและได้รับเงินค่าที่ดินไปแล้ว กลับเอาที่ดินนั้นไปจดทะเบียนโอนขายให้คนอื่น โดยผู้รับโอนได้รู้ถึงความจริงอันเป็นทางให้ผู้ซื้อคนแรกซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องเสียเปรียบแล้ว ผู้ซื้อคนแรกก็มีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่พิพาทนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ขายที่ดินมีโฉนด เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ให้โจทก์ราคา 5,000 บาท โจทก์ได้ปลูกเรือนและชำระราคาโดยชำระเงินกู้ให้จำเลยตามข้อตกลงรวมทั้งผ่อนชำระราคาที่ดินให้จำเลยที่ 1 ครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยที่ 1 กลับไปโอนที่ดินให้จำเลยที่ 2-3 โดยสมยอมกัน จึงขอให้ศาลเพิกถอนการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับที่ 2 ที่ 3 ให้จำเลยที่ 1 โอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ หากจำเลยไม่ปฏิบัติตาม ก็ให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ได้ซื้อที่พิพาทไว้จากจำเลยที่ 1 ก่อนแต่ยังมิได้จดทะเบียนโอน แล้วจำเลยที่ 1 จึงมาจดทะเบียนโอนให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 โดยเสียค่าตอบแทน ฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3 ใช้สิทธิไม่สุจริต พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 2 ที่ 3 จดทะเบียนโอนที่พิพาทไม่สุจริต เป็นทางเสียเปรียบแก่โจทก์ผู้อยู่ในฐานะจะให้จดทะเบียนสิทธิได้อยู่ก่อนแล้ว พิพากษากลับให้เพิกถอนสัญญาซื้อขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ที่ 3 เสีย ให้จำเลยที่ 1 โอนที่พิพาทให้โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือคำพิพากษานี้เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1

จำเลยที่ 2 ที่ 3 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยที่ 1 ผู้เป็นลูกหนี้ได้จดทะเบียนโอนที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ทั้งรู้อยู่ว่าจะเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ซึ่งเป็นผู้ได้ที่พิพาทไปก็ได้รู้ข้อความจริงอันเป็นทางให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบนั้นด้วย เช่นนี้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237 บัญญัติว่า โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้ก็ขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 นั้นเสียได้

พิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลยที่ 2 ที่ 3

Share