คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1136/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยออกเช็คให้ผู้เสียหาย ถึงแม้ว่าจะเป็นการออกเช็คเพื่อค้ำประกันหนี้ของบุคคลที่สามก็ตาม แต่ก็เป็นเช็คที่ออกโดยมีเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เพราะบุคคลที่สามมีมูลหนี้ต่อผู้เสียหายจริง เมื่อเป็นเช็คที่ออกเพื่อจะให้มีการใช้เงินตามเช็คแต่เช็คนั้นขึ้นเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีมีไม่พอจ่าย จำเลยจึงต้องมีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้นและออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยให้การปฏิเสธว่าเช็คดังกล่าวเป็นสัญญาประกัน และผู้เสียหายรู้ว่าจำเลยไม่มีเงินในธนาคารและตามข้อตกลงก็ไม่มีการจะจ่ายเงินตามเช็คนั้น
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยออกเช็คประกันมูลหนี้ในทางแพ่ง ไม่ใช่ผูกพันทางหนี้โดยตรง เอาผิดกับจำเลยยังไม่ได้พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ
์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติเช็ค ฯ ให้จำคุก ๓ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงเป็นอันฟังได้ว่าจำเลยได้ออกเช็คตามฟ้องให้ผู้เสียหายจริง ถึงแม้จะเป็นการออกเช็คให้เพื่อค้ำประกันหนี้ของนายบักชวนตามที่จำเลยนำสืบก็ตาม แต่ก็เป็นเช็คที่ออกโดยมีเจตนาจะให้ผูกพันและชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย เพราะนายบักชวนมีมูลหนี้ต่อผู้เสียหายจริง เมื่อเช็คตามฟ้องเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อจะให้มีการใช้เงินตามเช็ค แต่เช็คนั้นขึ้นเงินไม่ได้เพราะเงินในบัญชีมีไม่พอจ่าย จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share