แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่านางเซ่งอู้มอบเงินให้นายไล้ซื้อผ้า แล้วจำเลยปลอมหนังสือใจความว่าให้นายไล้มอบผ้าหรือเงินให้แก่จำเลย โดยมิได้ระบุว่าปลอมหนังสือของผู้ใดดังนี้ ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เดิมนางเซ่งอู้ มอบเงินให้นายไล้ ซื้อผ้าถุงให้นางเซ่งอู้ นายไล้ซื้อผ้า ๓๑ ผืนราคา ๕๖๓ บาท ไว้ให้นางเซ่งอู้ วันที่ ๙ เมษายน ๒๔๘๗ จำเลยผู้เป็นบุตร์เขยนางเซ่งอู้ทำหนังสือปลอมขึ้นฉบับ ๑ ใจความว่า ให้นายไล้มอบผ้าที่ซื้อไว้ให้แก่จำเลยหากไม่ได้ผ้าถุงก็ให้มอบเงิน ๖๐๐ บาท ที่นางเซ่งอู้ฝากนั้นให้แก่จำเลยไป ต่อมาวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๔๘๗ จำเลยให้คนเอาหนังสือปลอมนี้ไปแสดงต่อนายไล้ และกล่าวเท็จหลอกลวงว่าเป็นหนังสือนางเซ่งอู้ โดยคิดหลอกลวงให้นายไล้มอบผ้าหรือเงินให้จำเลย นายไล้หลงเชื่อมอบผ้าให้ไป จำเลยรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นลงโทษฐานฉ้อโกง ส่วนฐานปลอมหนังสือให้ยกโดยฟ้องไม่ได้กล่าวว่าปลอมหนังสือผู้ใด
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าอ่านฟ้องแล้วพอเข้าใจว่าปลอมหนังสือนางเซ่งอู้ จึงลงโทษฐานปลอมหนังสือด้วย แต่มีความเห็นแย้งว่าลงโทษฐานปลอมหนังสือไม่ได้
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาตัดสินว่าฟ้องโจทก์บรรยายข้อหาฐานปลอมหนังสือไม่ชัดเจนพอตามที่กฎหมายบังคับ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น