คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 113/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ประกันภัยทรัพย์สินไว้แก่บริษัท อ. โดยกำหนดความรับผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนไว้ตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย เช่นนี้เมื่อโจทก์ฟ้องบริษัท อ. ให้รับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวแม้จำเลยซึ่งเป็นพนักงานของบริษัท อ. จะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังกล่าวจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนี้ได้นำข้อความที่รู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จมาเบิกความในฐานะพยานจำเลยต่อศาลแพ่ง ในคดีหมายเลขดำที่ 11800/2519 ซึ่งโจทก์ฟ้องบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด ให้รับผิดฐานผิดสัญญาประกันภัย ว่า”ก่อนทำสัญญากัน เจ้าหน้าที่ของบริษัทจำเลยได้แจ้งให้โจทก์ทราบด้วยว่าเงื่อนไขในการคุ้มครองนั้นจะต้องเป็นเรื่องที่ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหายอันเกิดจากการใช้กำลังบุกรุกโดยวิธีรุนแรงเข้าไปในสถานที่เก็บรักษาทรัพย์”ซึ่งความจริงมิได้มีการแจ้งเงื่อนไขดังกล่าวให้โจทก์ทราบ และเป็นข้อสำคัญในคดี จำเลยเบิกความเพื่อช่วยเหลือนายจ้างมิให้ต้องรับผิดตามฟ้องดังกล่าวทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว มีคำสั่งให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โดยวินิจฉัยว่าข้อความที่จำเลยเบิกความไม่ใช่ข้อสำคัญในคดี

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลในการพิจารณาคดีนั้นจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 ก็ต่อเมื่อความอันเป็นเท็จนั้นเป็นข้อสำคัญในคดี เมื่อคดีแพ่งที่จำเลยเบิกความนั้นเป็นเรื่องที่โจทก์ผู้เอาประกันภัยฟ้องบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด ผู้รับประกันภัยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัยเพราะเหตุทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้สูญหาย ดังนั้น ความรับผิดของบริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด จะมีต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด ย่อมอยู่ภายใต้บังคับแห่งเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยเป็นสำคัญ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะนำสืบให้อีกฝ่ายหนึ่งรับผิดหรือหลุดพ้นจากความรับผิดนอกเหนือไปจากเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยหาได้ไม่ ฉะนั้น เมื่อโจทก์และจำเลยในคดีแพ่งนั้นรับกันว่าได้ทำสัญญากรมธรรม์ประกันภัยไว้จริง จำเลยจะเบิกความถึงข้อที่ได้แจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนทำสัญญาหรือไม่ก็ตาม คำเบิกความของจำเลยก็ไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 11800/2519ดังกล่าว ก็มิได้ยกข้อเท็จจริงในเรื่องที่ได้มีการแจ้งเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยให้โจทก์ทราบก่อนมาเป็นเหตุยกฟ้อง ข้อความที่จำเลยเบิกความในคดีแพ่งดังที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง จึงมิใช่ข้อสำคัญในคดีแพ่งที่กล่าวนั้น จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีต่อศาล

พิพากษายืน

Share