แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นายทหารขับรถไปราชการ แม้จะขัดต่อระเบียบของกระทรวงเจ้าสังกัดที่ห้ามนายทหารสัญญาบัตรขับรถทหารเองก็ตาม ข้อบังคับนี้ก็เป็นเรื่องภายในระหว่างกัน เมื่อนายทหารนั้นทำละเมิดในขณะปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้บุคคลอื่นเสียหายแล้ว กระทรวงทบวงกรมเจ้าสังกัดก็ต้องรับผิดด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ขับรถยนต์ของจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ไปในราชการโดยประมาทและชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย จึงขอให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหาย
จำเลยทั้ง ๓ ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ เป็นฝ่ายประมาทเลินเล่อ ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน ๗๗,๗๙๕ บาท กับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่ง แต่ให้ยกฟ้องเฉพาะจำเลยที่ ๒ และที่ ๓
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ว่าการที่จำเลยที่ ๑ ขับรถจิ๊บไปเองนั้นขัดต่อระเบียบของกระทรวงกลาโหมที่ห้ามนายทหารสัญญาบัตรขับรถทหารเอง ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อบังคับของจำเลยจะมีอย่างไร เป็นเรื่องภายในระหว่างจำเลยกับคนของจำเลยผู้ทำละเมิดเท่านั้น แต่จำเลยที่ ๑ ได้ทำละเมิดต่อโจทก์ผู้เสียหายในการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ โดยเหตุที่ได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาในนำรถจิ๊บนี้เดินทางไปจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงแก่นักเรียนนายสิบที่กรุงเทพฯ แล้วกลับยังที่ที่จำเลยที่ ๑ รับราชการอยู่ตามปกติ เป็นการทำละเมิดในการทำตามหน้าที่เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงจำเลยที่ ๒ ที่ ๓ ต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายนั้น
พิพากษายืน