คำสั่งคำร้องที่ 1100/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218วรรคแรก ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า การที่ศาลชั้นต้นลงโทษฐานฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 343 จำคุก 4 ปี ฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 เดือนรวมจำคุก 4 ปี 1 เดือน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษฐานฉ้อโกงตามมาตรา 341 จำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นให้ยกเป็นการแก้ไขบทมาตราที่ใช้ในการลงโทษ และโทษที่จะลงแก่จำเลยอีกด้วย ถือว่าเป็นการแก้ไขมาก จำเลยจึงมีสิทธิที่จะฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 155) แต่โจทก์ร่วมทั้งสี่ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ระหว่างพิจารณา นายเยื้อง สระหงษ์ทอง กับพวกรวม 4 คนผู้เสียหาย ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343,91 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ. 2511มาตรา 4,7,27,28 ลงโทษฐานฉ้อโกงประชาชน จำคุก 4 ปี ฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก1 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 1 เดือน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ลงโทษจำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นให้ยก
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 151)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 155)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343,91 พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511 มาตรา 4,7,27,28ลงโทษฐานฉ้อโกงประชาชน จำคุก 4 ปี ฐานจัดหางานโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 1 เดือน รวมจำคุก 4 ปี 1 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 ลงโทษจำคุก 2 ปี ข้อหาอื่นให้ยก เป็นการแก้มากข้อหาฐานฉ้อโกง ไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงให้รับฎีกาข้อเท็จจริงของจำเลยด้วยแล้วให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป

Share