แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบ พ.ศ. 2500 ได้กำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงินบำเหน็จแก่พนักงานไว้ว่าพนักงานยาสูบมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเมื่อถึงแก่กรรม และการถึงแก่กรรมนั้นมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามระเบียบดังกล่าวไม่ได้กำหนดว่าพนักงานที่ถึงแก่กรรมและไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จจะต้องเป็นการถึงแก่กรรมเพราะถูกบุคคลอื่นฆ่าตายเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ดังนั้นไม่ว่าพนักงานจะถึงแก่กรรมเพราะเหตุใดก็ตาม ถ้าเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงแล้ว ก็ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามระเบียบนี้ การที่ ท. ใช้อาวุธปืนยิง ย. ในที่ทำงานและในเวลาทำงานล่วงเวลาของโรงงานยาสูบผู้เป็นนายจ้าง ถือได้ว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงในเวลาต่อเนื่องกันหลังจากประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ท.ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนถึงแก่ความตาย การฆ่าตัวตายของ ท. ก็เพื่อหนีความรับผิดจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั่นเอง การถึงแก่กรรมของ ท. จึงเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามระเบียบดังกล่าวโจทก์ซึ่งเป็นทายาทของ ท. จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายทองชุบ เอี่ยมจรูญ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2531 นายทองชุบถึงแก่กรรมด้วยสาเหตุฆ่าตัวตาย มีอายุการทำงานถึงวันที่ถึงแก่กรรมรวม 26 ปี เมื่อนายทองชุบถึงแก่กรรม โจทก์ทั้งห้าในฐานะทายาทมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จจำนวน 212,160 บาท ตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบ พ.ศ. 2500 แต่จำเลยปฏิเสธ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินบำเหน็จแก่โจทก์ทั้งห้า เป็นเงิน212,160 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 27 กันยายน 2531 จนกว่าจำเลยจะชำระให้โจทก์เสร็จจำเลยให้การว่าการยิงตัวตายของนายทองชุบเกิดขึ้นเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบ พ.ศ. 2500 โจทก์ซึ่งเป็นทายาทย่อมไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จดังกล่าวด้วย ขอให้ยกฟ้อง ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์ทั้งห้าอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบ พ.ศ. 2500 เอกสารหมาย จ.ล.1 ได้กำหนดเงื่อนไขการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานที่ถึงแก่กรรมไว้ในข้อ 3(ง) ว่า
ข้อ 3. พนักงานยาสูบที่ออกจากงานในกรณีและเงื่อนไขดังต่อไปนี้มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ คือ
ง. ถึงแก่กรรมและการถึงแก่กรรมนั้นมิได้เกิดขึ้นเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
เห็นว่า ตามระเบียบดังกล่าวไม่ได้กำหนดว่าพนักงานที่ถึงแก่กรรมและไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จ จะต้องเป็นการถึงแก่กรรมเพราะถูกบุคคลอื่นฆ่าตายเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงดังที่โจทก์ทั้งห้าอุทธรณ์ ดังนั้นไม่ว่าพนักงานจะถึงแก่กรรมเพราะเหตุใดก็ตาม ถ้าเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงแล้วก็ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามระเบียบนี้ การที่นายทองชุบใช้อาวุธปืนยิงนางยุบลในที่ทำงานและในเวลาทำงานล่วงเวลาของโรงงานยาสูบผู้เป็นนายจ้าง ถือได้ว่าเป็นการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงในเวลาต่อเนื่องกันหลังจากประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง นายทองชุบได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองจนถึงแก่ความตายการฆ่าตัวตายของนายทองชุบก็เพื่อหนีความรับผิดจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงนั่นเองการถึงแก่กรรมของนายทองชุบจึงเนื่องจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตามระเบียบการจ่ายบำเหน็จแก่พนักงานยาสูบพ.ศ. 2500 ข้อ 3(ง) โจทก์ทั้งห้าซึ่งเป็นทายาทของนายทองชุบจึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จดังกล่าว ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งห้าฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน