แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยได้ร่วมรู้คบคิดกับ ศ. และพวกที่จะมาวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหาย โดยมีการวางแผนให้ ศ.ไปทำการ ส่วนจำเลยกับพวกจอดรถอยู่ห่างที่เกิดเหตุ เมื่อ ศ.วิ่งราวทรัพย์แล้วก็จะวิ่งหนีมาขึ้นรถยนต์ของจำเลยหลบหนีไป จำเลยจอดรถคอยอยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 80 เมตร และมีศาลาวัดบังมองไม่เห็นที่เกิดเหตุ การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่ ศ.ในการที่จะไปทำการวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหาย จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา 86
การที่จำเลยกับพวกจอดรถกับ ศ.ไป เป็นเวลาภายหลังเมื่อ ศ.วิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ที่จอดรถและที่ ศ.วิ่งราวทรัพย์ห่างกันมาก และมองไม่เห็นกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์
รถยนต์ของจำเลยมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์จึงไม่ถึงริบตามมาตรา 33(1)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกรวมกันวิ่งราวสร้อยคอทองคำ พระเครื่องและนางกวัก ของนางสวิง แก้วสมบูรณ์ โดยใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะ เพื่อความสะดวกแก่การกระทำความผิดและนำเอาทรัพย์นั้นไป เจ้าพนักงานจับจำเลยกับพวกได้พร้อมรถยนต์ของจำเลยที่ใช้ในการกระทำความผิด ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖,๓๓๖ ทวิ ,๘๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ข้อ ๑๓ ริบรถยนต์ของกลางให้จำเลยร่วมกับพวกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่คืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำตามผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖,๘๖ จำคุก ๒ ปี ๘ เดือน รถยนต์ของกลางจำเลยใช้ในกระทำความผิดโดยใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือผู้กระทำผิด ให้ริบ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นเพียงผู้สนับสนุนก่อนการกระทำความผิด รถยนต์ของจำเลยไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ ริบไม่ได้ พิพากษาแก้ ให้จำเลยร่วมกับพวกคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย รถยนต์ของกลางคืนจำเลย นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาว่า จำเลยได้ร่วมกันคบคิดกับนายศิริ และพวกที่จะมาวิ่งราวทรัพย์ของผู้เสียหายมาก่อน โดยมีการวางแผนให้นายศิริไปทำการ ส่วนจำเลยกับพวกจอดรถอยู่ห่างที่เกิดเหตุ เมื่อนายศิริวิ่งราวทรัพย์แล้วก็จะวิ่งหนีมาขึ้นรถยนต์ของจำเลยหลบหนีไป จำเลยจอดรถคอยอยู่ห่างที่เกิดเหตุประมาณ ๘๐ เมตร มีศาลาวัดบังมองไม่เห็นที่เกิดเหตุ วินิจฉัย การกระทำของจำเลยเป็นการช่วยเหลือและให้ความสะดวกแก่นายศิริในการที่จะไปทำการวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหาย จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา ๘๖
การที่จำเลยกับพวกจอดรถกับนายศิริไป เป็นเวลาภายหลังเมื่อนายศิริวิ่งราวทรัพย์เสร็จแล้ว ที่จอดรถและที่ นายศิริวิ่งราวทรัพย์ห่างกันมาก และมองไม่เห็นกัน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยเป็นตัวการร่วมในการวิ่งราวทรัพย์
ส่วนที่โจทก์ขอให้ริบรถยนต์ของกลางนั้น เห็นว่า รถยนต์ของจำเลยมิใช่ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์จึงไม่เป็นทรัพย์ที่พึงริบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓(๑) พิพากษายืน