คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 11235/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 โดยไม่นำข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดก่อนเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในสัญญาที่ตกลงกัน จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจไม่ช้ากว่าวันยื่นคำให้การหรือภายในระยะเวลาที่มีสิทธิยื่นคำให้การตามกฎหมายให้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้คู่สัญญาไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการได้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้ทำคำร้องยื่นต่อศาลให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีภายในกำหนดระยะเวลาตามความใน พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 14 แต่ได้ยื่นคำให้การโต้แย้งไว้แล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยไม่ดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการก่อน ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ประสงค์ให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุดังกล่าว และแม้คำให้การจำเลยที่ 1 จะปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ในเรื่องอื่น ๆ ด้วยและขอให้ยกฟ้อง ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 สละข้อตกลงเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการตามที่ระบุไว้ในสัญญา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 6,300,000 บาท คืนแก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเพื่อให้คู่สัญญาไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการต่อไป คืนค่าขึ้นศาลให้โจทก์ 80,000 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้เป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 จำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2 ทำสัญญาอนุญาตให้โจทก์ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ECONS ของจำเลยทั้งสอง ราคา 6,300,000 บาท เพื่อที่โจทก์จะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่าวมาใช้กับระบบการทำงานของโจทก์ จำเลยทั้งสองติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวให้แก่โจทก์แล้ว และโจทก์ชำระเงินจำนวน 4 งวด แก่จำเลยทั้งสองแล้ว ต่อมาโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยที่ยังมิได้มีการดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการก่อนแต่อย่างใด คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า โจทก์ยังต้องดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการหรือไม่ เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ในกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องคดีเกี่ยวกับข้อพิพาทตามสัญญาอนุญาโตตุลาการโดยมิได้เสนอข้อพิพาทนั้นต่อคณะอนุญาโตตุลาการตามสัญญา คู่สัญญาฝ่ายที่ถูกฟ้องอาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจไม่ช้ากว่าวันยื่นคำให้การหรือภายในระยะเวลาที่มีสิทธิยื่นคำให้การตามกฎหมาย ให้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้คู่สัญญาไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ และเมื่อศาลทำการไต่สวนแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุที่ทำให้สัญญาอนุญาโตตุลาการนั้นเป็นโมฆะ หรือใช้บังคับไม่ได้ หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญานั้นได้ ก็ให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีนั้นเสีย คดีนี้ปรากฏว่าโจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 โดยมิได้นำข้อพิพาทเสนอต่ออนุญาโตตุลาการให้วินิจฉัยชี้ขาดเสียก่อนตามสัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ การระงับข้อพิพาทที่กำหนดว่า “ในกรณีที่มีข้อพิพาท ข้อขัดแย้ง หรือข้อเรียกร้องใด ๆ เกิดขึ้นจากสัญญานี้ หรือเกี่ยวเนื่องจากสัญญานี้ รวมทั้งปัญหาการผิดสัญญา การเลิกสัญญา หรือความสมบูรณ์แห่งสัญญา ให้คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายดำเนินการเจรจาตกลงกันเพื่อระงับข้อพิพาทภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่คู่สัญญาฝ่ายที่กล่าวอ้างว่ามีข้อพิพาทเกิดขึ้นได้แจ้งให้คู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่งรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร หากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่อาจตกลงกันภายในกำหนดเวลาดังกล่าว ให้คู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมอบข้อพิพาทดังกล่าวให้อนุญาโตตุลาการเพื่อชี้ขาดภายใน 30 วัน นับถัดจากวันที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่อาจตกลงกันได้” เมื่อโจทก์และจำเลยทั้งสองตกลงมอบข้อพิพาทที่เกิดขึ้นให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาด ข้อตกลงดังกล่าวจึงเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการ การฟ้องคดีของโจทก์โดยไม่นำข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดก่อนจึงเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขของข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในสัญญาฉบับนี้ จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจไม่ช้ากว่าวันยื่นคำให้การหรือภายในระยะเวลาที่มีสิทธิยื่นคำให้การตามกฎหมาย ให้มีคำสั่งจำหน่ายคดี เพื่อให้คู่สัญญาไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการได้ แม้จำเลยที่ 1 มิได้ทำคำร้องยื่นต่อศาลให้มีคำสั่งจำหน่ายคดีภายในกำหนดระยะเวลาตามความในมาตรา 14 ดังกล่าว แต่จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การโต้แย้งไว้แล้วว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้โดยไม่ดำเนินกระบวนการอนุญาโตตุลาการก่อน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ประสงค์ให้ศาลไต่สวนและมีคำสั่งจำหน่ายคดีเพราะเหตุที่โจทก์ไม่ได้เสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยชี้ขาดตามสัญญา แม้ในคำให้การจำเลยที่ 1 จะได้ปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ในเรื่องอื่น ๆ มาด้วยและขอให้ยกฟ้องก็ตาม กรณีไม่ถือว่าจำเลยที่ 1 ได้สละข้อตกลงเกี่ยวกับการระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการตามที่ระบุไว้ในสัญญา การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางไม่ได้ทำการไต่สวนในปัญหาเรื่องข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการโดยตรงตามมาตรา 14 ดังกล่าวก็ตาม แต่ศาลก็ได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทไว้ในชั้นชี้สองสถาน และในชั้นพิจารณา พยานหลักฐานก็เพียงพอรับฟังได้แล้วว่า สัญญาอนุญาตให้ใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ระบุเรื่องการระงับข้อพิพาทไว้ ซึ่งการที่โจทก์ฟ้องกล่าวหาจำเลยทั้งสองว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ECONS ของจำเลยทั้งสองผิดพลาดไม่อาจใช้งานได้ตามที่ตกลงไว้ในสัญญา และจำเลยทั้งสองให้การต่อสู้ว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ของจำเลยทั้งสองได้แก้ไขปรับปรุงระบบจนเป็นที่พอใจของโจทก์แล้ว อันเป็นการโต้เถียงว่าโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของจำเลยทั้งสองไม่บกพร่องและพร้อมใช้งาน จึงเป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นตามสัญญาที่จะต้องบังคับให้ระงับข้อพิพาทโดยใช้วิธีอนุญาโตตุลาการ ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าข้อเท็จจริงในทางพิจารณาเพียงพอที่ศาลจะไม่ต้องทำการไต่สวนตามมาตรา 14 ต่อไป และกรณีไม่ปรากฏว่ามีเหตุที่ทำให้สัญญาอนุญาโตตุลาการนั้นเป็นโมฆะ หรือใช้บังคับไม่ได้ หรือมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญานั้นได้ คู่ความจึงต้องผูกพันตามเงื่อนไขในข้อสัญญาอนุญาโตตุลาการในกรณีที่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น การที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำสั่งให้จำหน่ายคดีเพื่อให้คู่สัญญาไปดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการต่อไปจึงเป็นการชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share