คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1123/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า สินค้าเครื่องไม้แกะสลักที่จ้างจำเลยขนส่งมี 75รายการ รายละเอียดตามบัญชีท้ายฟ้องราคารวม 166,731 บาท เมื่อรถพลิกคว่ำเพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับ จำเลยคืนสินค้าให้โจทก์ตามบัญชีท้ายฟ้อง รวมราคา 63,420 บาท สินค้าเสียหายเป็นราคารวมทั้งสิ้น 103,311บาท บัญชีท้ายฟ้องได้ระบุจำนวน ชนิด ขนาดของสินค้าไว้ชัดเจน ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ไม่จำต้องกล่าวถึงว่าราคาสินค้าเครื่องไม้แกะสลักแต่ละรายการนั้นเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องนำสืบกันในชั้นพิจารณา
จำเลยได้รับขนสินค้าของโจทก์ ถึงแม้จำเลยผู้ตกลงรับขนสินค้าได้มอบหมายให้ พ.บรรทุกสินค้าของโจทก์โดยรถยนต์ของพ. เอง ก็เป็นเรื่องรับจ้างขนส่งช่วงอีกทอดหนึ่ง จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 617
กรณีที่ใบรับสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายไม่เกิน 500 บาทนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้งข้อจำกัดความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 625

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งประกอบธุรกิจรับขนส่งสินค้าเพื่อบำเหน็จเป็นทางการค้าปกติ ได้รับขนสินค้าเครื่องไม้แกะสลักของโจทก์ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำมาส่งที่บ้านโจทก์ในกรุงเทพมหานคร รวม 75 รายการ ราคา 166,731 บาทปรากฏตามสำเนาใบรับสินค้าและรายการส่งของเอกสารท้ายฟ้อง โดยติดต่อจ้างขนส่งเป็นเงิน 1,600 บาท แต่รถยนต์ที่บรรทุกสินค้าดังกล่าวได้พลิกคว่ำที่ทางแยกในเขตจังหวัดสิงห์บุรี เพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับ ทำให้สินค้าเครื่องไม้แกะสลักของโจทก์ที่จำเลยรับขนแตกหักสูญหาย โจทก์ได้รับสินค้าคืนคิดเป็นเงินเพียง 63,420 บาท ปรากฏตามสำเนาเอกสารการสำรวจสินค้าท้ายฟ้อง สินค้าของโจทก์แตกหักเสียหายคิดเป็นเงิน 103,311 บาท จำเลยรับจะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด แต่แล้วกลับเพิกเฉย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 103,311 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า ไม่ได้รับจ้างขนสินค้าให้โจทก์ จำเลยเป็นเพียงนายหน้าติดต่อให้โจทก์กับเจ้าของรถบรรทุกคันเกิดเหตุตกลงจ้างกันเอง โดยจำเลยได้รับแต่ค่านายหน้าจากเจ้าของรถบรรทุก และยอมให้เจ้าของรถบรรทุกใช้แบบพิมพ์ใบรับส่งสินค้าของจำเลยเท่านั้น จำเลยจะรับผิดเกี่ยวกับสินค้าสูญหายหรือเสียหายก็ต่อเมื่อผู้เสียหายมีหนังสือเรียกร้องภายใน 30 วัน และในกรณีสินค้ามิได้ประเมินราคาไว้ดังรายของโจทก์ จำเลยจะรับผิดไม่เกิน 500 บาท แต่โจทก์มิได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยทราบภายใน 30 วัน จำเลยจึงไม่ต้องรับผิด ความจริงโจทก์เสียหายไม่เกิน 2,000 บาท จำเลยไม่เคยยินยอมจะชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์และไม่รับรองเอกสารแสดงรายการส่งสินค้าและรายการสำรวจสินค้าตามสำเนาท้ายฟ้องว่าถูกต้อง กับตัดฟ้องว่า ฟ้องมิได้กล่าวให้ชัดแจ้งเกี่ยวกับยี่ห้อและทะเบียนรถบรรทุกคันเกิดเหตุ รวมทั้งรายละเอียดของรายการสินค้าและราคา ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์เป็นเงิน 103,311บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์บรรยายฟ้องว่าสินค้าเครื่องไม้แกะสลักที่จ้างจำเลยขนส่งมี 75 รายการ รายละเอียดตามบัญชีท้ายฟ้องราคารวม 166,731บาท เมื่อรถพลิกคว่ำเพราะความประมาทเลินเล่อของคนขับ จำเลยคืนสินค้าเครื่องไม้แกะสลักให้โจทก์ตามบัญชีท้ายฟ้อง รวมราคา 63,420 บาท สินค้าเครื่องไม้แกะสลักเสียหายเป็นราคารวมทั้งสิ้น 103,311 บาท บัญชีท้ายฟ้องได้ระบุจำนวน ชนิด ขนาดของสินค้าไว้ชัดเจน ดังนี้ เห็นว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ โดยไม่จำต้องกล่าวถึงว่าราคาสินค้าเครื่องไม้แกะสลักแต่ละรายการนั้นเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดซึ่งจะต้องนำสืบกันในเวลาพิจารณาซึ่งโจทก์ก็ได้นำสืบราคาต้นทุนของสินค้าเครื่องไม้แกะสลักที่เสียหายไปแต่ละรายการแล้ว ฟ้องของโจทก์ จึงไม่เคลือบคลุม

จำเลยได้รับขนสินค้าของโจทก์ดังฟ้อง ถึงแม้จำเลยผู้ตกลงรับขนสินค้าของโจทก์ ได้มอบหมายให้นายพยอมบรรทุกสินค้าของโจทก์โดยรถยนต์ของนายพยอมเอง ก็เป็นเรื่องรับจ้างขนส่งช่วงอีกทอดหนึ่ง จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 617 ส่วนกรณีที่ใบรับสินค้าของจำเลยมีข้อความจำกัดความรับผิดว่าจะชดใช้ค่าเสียหายไม่เกิน 500 บาทนั้น ก็ไม่ได้ความจากข้อนำสืบของจำเลยว่าโจทก์ได้ตกลงด้วยชัดแจ้ง ข้อจำกัดความรับผิดของจำเลยจึงเป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 625 จำเลยไม่พ้นความรับผิดต่อโจทก์

พิพากษายืน

Share