แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบรรยายว่า การนับคะแนนของกรรมการบางหน่วยส่อไปในทางทุจริตไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้งและวินิจฉัยบัตรดีของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสียโดยมิได้ระบุให้ชัดแจ้งว่ามีกรรมการหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดบางที่ทุจริต นับคะแนนโดยทุจริต อย่างไร และเป็นบัตรเสียประการใด จึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต ๑ จังหวัดนครสวรรค์ ทางราชการประกาศผลการเลือกตั้งว่ามีผู้ใดรับการเลือกตั้ง ๓คน คือ นายธเนศ เตลาน นายไชยศิริ ธีรัทธานนท์ และนายดำรงพันธ์ อสุนี ณ อยุธยา ซึ่งได้ ๒๒,๔๔๕ คะแนน ส่วนผู้ร้องได้ ๒๒,๓๓๓ คะแนน ต่างกันเพียง ๑๑๒คะแนน ครั้งแรกสถานีวิทยุกระจายเสียงท้องถิ่นและสถานีโทรทัศน์ จังหวัดนครสวรรค์ ประกาศผลการเลือกตั้งว่า ผู้ร้องได้รับการเลือกตั้ง มีคะแนนเป็นอันดับ ๓ โดยชนะนายดำรงพันธ์อยู่ ๔๒ คะแนน และหนังสือพิมพ์ก็ประกาศว่าผู้ร้องได้รับเลือกตั้งเช่นเดียวกัน หลังจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ประกาศไปแล้วประมาณ ๒ชั่วโมงเศษ ก็มีประกาศผลการเลือกตึ้งใหม่ปรากฏว่าผู้ร้องกลับไม่ได้รับการเลือกตั้ง ผู้ร้องเห็นว่าการนับคะแนนของคณะกรรมการบางหน่วยส่อไปในทางทุจริต เช่น หน่วยที่ ๓ ของตำบลนครสวรรค์ตก เป็นต้น และไม่ชอบตามกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การวินิจฉัยบัตรดีของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสียที่หน่วยโรงสีประจักษ์จิตขอให้ศาลมีคำสั่งให้มีการนับคะแนนของผู้ร้องและนายดำรงพันธ์ใหม่ หากนับคะแนนแล้ว ปรากฏว่าคะแนนของผู้ร้องมากกว่าของนายดำรงพันธ์ ก็ขอให้มีคำสั่งให้ผู้ร้องได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนนายดำรงพันธ์ หากกฎหมายมิให้อำนาจเช่นนั้น ก็ขอให้มีคำสั่งว่า การที่นายดำรงพันธ์ได้รับเลือกตั้งเป็นโมฆะ และให้มีการเลือกตั้งใหม่
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์และนายดำรงพันธ์คัดค้านว่า คำร้องของผู้คัดค้านปราศจากเหตุผลและข้อสนับสนุนตามกฎหมาย การเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบ คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นให้งดการไต่สวนแล้วทำความเห็นส่งศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในคำร้องของผู้ร้องมิได้ระบุให้ชัดแจ้งว่ามีกรรมการหน่วยเลือกตั้งหน่วยใดบ้างที่ทุจริต เพียงแต่ยกตัวอย่างว่า เช่น หน่วยที่ ๓ ของตำบลนครสวรรค์ตก มาเท่านั้น และนับคะแนนโดยทุจริตอย่างไร ก็มิได้บรรยายมา ข้ออ้างในคำร้องของผู้ร้องที่ว่าการวินิจฉัยบัตรดีของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสียนั้น มิได้บรรยายว่าเป็นบัตรเสียโดยประการใดเพราะบัตรเลือกตั้งที่ถือว่าเป็นบัตรเสียนั้น ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๑๑ มาตรา ๕๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๑๗ มาตรา ๑๙ มีด้วยกันถึง ๕ อย่าง แต่ผู้ร้องมิได้ระบุในคำร้องให้ชัดแจ้ง คำร้องเช่นนี้ของผู้ร้องจึงเป็นคำร้องเคลือบคลุม เพราะมิได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของผู้ร้อง และข้อที่อ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๒ ศาลจะรับไว้พิจารณาหาได้ไม่
จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง