คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1121/2477

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บิดายอมให้บุตร์นำเจ้าพนักงานรังวัดใส่ชื่อบุตร์เป็นเจ้าของที่ดินบุตร์ยังหาได้ที่เป็นสิทธิไม่เพราะเป็นแต่เพียงแสดงความตั้งใจจะยกให้เท่านั้น อ้างฎีกาที่ 200/2463 ที่ 369/2468 ที่ 641/2469 ป.พ.พ.ม.112-237 บิดายอมให้บุตร์นำเจ้าพนักงานรังวัดใส่ชื่อบุตร์เป็นเจ้าของที่แล้วเจ้าพนักงานก็ได้ออกใบไต่สวนแลโฉนดให้บุตร์ ถือว่าเป็นการที่บิดายกที่ดินให้บุตร์โดยเสน่หานิติกรรมที่ลูกหนี้ทำให้โดยเสน่หา แม้ลูกหนี้ฝ่ายเดียวเป็นผู้รู้ว่าเป็นทางทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบเจ้าหนี้ก็ชอบที่จะขอให้เพิกถอนเสียได้ วิธีพิจารณาแพ่ง
ร้องขัดทรัพย์

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่าที่นารายพิพาทเดิมเป็นของจำเลย ไม่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๓ จำเลยยอมให้ผู้ร้องซึ่งเป็นบุตร์นำเจ้าพนักงานรังวัดใส่ชื่อผู้ร้องเป็นเจ้าของ ต่อมาวันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ จำเลยได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์แลเอาที่นารายนี้เป็นประกัน วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๕ เจ้าพนักงานได้ออกใบไต่สวนแลโฉนดให้แก่ผู้ร้องวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๖ โจทก์ฟ้องเรียกเงินที่กู้ไปจากจำเลย แล้วโจทก์นำยึดที่นารายพิพาทนี้ ผู้ร้องจึงร้องคัดค้านว่าที่นารายนี้เป็นของผู้ร้อง มีโฉนดเป็นสำคัญขอให้ถอนการยึด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าตามพฤติการณ์ที่จำเลยยินยอมให้เจ้าพนักงานออกโฉนดที่นาให้แก่ผู้ร้องนั้น เป็นการโอนทรัพย์ให้แก่กันโดยเสน่หา แต่จะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้ออกโฉนดแล้ว เพราะตอนรังวัดนั้นกฎหมายถือว่าผู้ให้เพียงแต่แสดงความตั้งใจจะให้ ผู้ร้องยังหาได้ที่เป็นกรรมสิทธิไม่เห็นว่าเมื่อจำเลยกู้เงินโจทก์ไปจำเลยก็คงได้ทราบว่าที่นายังเป็นกรรมสิทธิของตนอยู่ จึงได้เอาประกันไว้ต่อโจทก์ ทั้งโฉนดก็ได้ออกภายหลัง จำเลยเป็นหนี้โจทก์เกือบ ๒ ปี การที่จำเลยโอนที่นาให้ผู้ร้องเป็นการทำให้โจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้เสียเปรียบตามประมวลแพ่ง ฯ ม.๒๓๗ เจ้าหนี้ขอให้เพิกถอนเสียได้ เห็นว่าโจทก์มีสิทธิยึดที่นารายนี้ได้ จึงพิพากษายืนตามศาลเดิม ให้ยกคำร้องขัดทรัพย์

Share