คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 กับพวกรับจ้างจำเลยที่ 1 ไปฆ่าผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กับพวกได้เตรียมอาวุธปืนไปดักยิงผู้เสียหาย แล้วยิงผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่นนี้ จำเลยที่ 2 ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ 2 กระทำความผิดนี้ต้องรับโทษเสมือนหนึ่งเป็นตัวการด้วย
การที่จำเลยฎีกาว่าควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยตามประมวลผลกฎหมายอาญามาตรา 76 นั้น เป็นการฎีกาคัดค้านดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลอุทธรณ์ ถือเสมือนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนนี้ศาลรวมพิจารณาสำนวนแรก โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนายเจริญ จำเลยในข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ส่วนสำนวนหลัง โจทก์ฟ้องว่า นายบ๊อกจำเลยที่ ๑ จ้างวานใช้ให้นายเจริญจำเลยที่ ๒ กับพวกฆ่าผู้เสียหาย จำเลยที่ ๒ กับพวกได้ใช้ปืนยิงผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลผลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔, ๒๘๘, ๒๘๙ ริบของกลาง และให้นับโทษนายเจริญจำเลยในสองสำนวนนี้ต่อกัน
จำเลยทั้งสองสำนวนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาสำนวนแรกว่านายเจริญมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๔๐ วรรคแรก ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ซึ่งเป็นกระทงหนักให้จำคุก ๑ ปี ข้อหาอื่นให้ยก ส่วนสำนวนหลังพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ประกอบมาตรา ๘๐, ๘๓, ๘๔ และ ๕๒ ลงโทษจำคุกคนละ ๒๐ ปี คำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้ ๑ ใน ๓ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกคนละ ๑๓ ปี ๔ เดือน ของกลางให้ริบ เว้นแต่อาวุธปืนมีทะเบียนคืนเจ้าของ ให้นับโทษนายเจริญจำเลยในสองสำนวนต่อกัน
จำเลยทั้งสองจำนวนอุทธรณ์ และขอให้ลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา และขอให้ลดมาตราส่วนโทษด้วย
ศาลฎีกามีคำสั่งสำหรับสำนวนแรกว่า ฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น แม้ข้อฎีกาของจำเลยที่ว่า ศาลควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖ ก็เป็นการฎีกาข้อดุลพินิจของศาล นับเนื่องว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘, ๒๒๐ จึงสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย
ส่วนสำนวนหลังนั้น ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ ได้ว่าจ้างให้จำเลยที่ ๒ ไม่ฆ่านายแดงผู้เสียหาย แล้วจำเลยที่ ๒ กับพวกไปดักยิงนายแดงได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงวินิจฉัยว่าการกระทำของนายเจริญจำเลยที่ ๒ เป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน นายบ๊อก จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ใช้ให้จำเลยที่ ๒ กับพวกกระทำผิด จึงต้องได้รับโทษเสมือนเป็นตัวการด้วย
พิพากษายืน

Share