คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 112/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทายาทผู้ครอบครองทรัพย์มรดกของผู้ตายมาแต่ผู้เดียวเกิน1 ปี โดยทายาทอื่นมิได้เรียกร้องมรดกนั้นเสียภายในกำหนด 1 ปีทรัพย์มรดกนั้นย่อมตกเป็นของทายาทผู้ครอบครองและเมื่อทายาทผู้ครอบครองขายทรัพย์นั้นไปแก่บุคคลภายนอกบุคคลภายนอกก็ย่อมจะใช้สิทธิของทายาทผู้นั้นยกอายุความมรดกขึ้นต่อสู้ทายาทอื่นได้ด้วย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มรดกของนางแคผู้เป็นอาโจทก์จากจำเลย

จำเลยต่อสู้ว่า ทรัพย์มรดกของนางแคตกได้แก่นายถิงน้องนางแคโดยนายถิงครอบครองแต่ผู้เดียวเกิน 1 ปี คดีขาดอายุความแล้ว ต่อมานายถิงทำพินัยกรรมยกให้จำเลยและบุคคลอื่น ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ที่พิพาทจะเป็นมรดกของนางแคแต่เดิมก็ดี แต่เมื่อนางแควายชนม์แล้ว นายถิงได้เข้าครอบครองมาคนเดียวเกิน 1 ปี โจทก์หาได้เข้าเกี่ยวข้องไม่ โจทก์มิได้เรียกร้องมรดกนางแคจากนายถิงเสียภายในกำหนด 1 ปี ที่พิพาทตกเป็นของนายถิงแต่ผู้เดียว หาใช่เป็นมรดกของนางแคต่อไปไม่ และในอายุความนี้แม้จำเลยจะมิใช่ทายาทของนางแคก็จริง แต่จำเลยเป็นผู้ซื้อที่พิพาทจากนายถิงผู้เป็นทายาทของนางแค นายถิงมีสิทธิที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้กับโจทก์ ดังนั้น จำเลยจึงเป็นบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของนายถิงยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share