คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1119/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ร่วมกันจำหน่ายเฮโรอีนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 5 เป็นผู้ติดต่อขาย แล้วจำเลยที่ 2ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 ไปขนเฮโรอีนมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ ดังนี้ก่อนที่จะส่งมอบเฮโรอีนให้แก่ผู้ซื้อย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2ถึงที่ 6 มีเฮโรอีนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวมีโทษเท่ากัน จึงให้ลงโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งหกตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 7, 15, 66, 102 จำเลยทั้งหกให้การปฏิเสธศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนตามพระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง,102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ยกฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โจทก์ จำเลยที่ 5และที่ 6 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ในข้อหาฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอีกบทหนึ่งนั้น เห็นว่า เกี่ยวกับการซื้อขายเฮโรอีนรายนี้จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 ร่วมกระทำความผิดกันมาตลอดมีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยจำเลยที่ 2 ที่ 3 และ 5 เป็นคนติดต่อขายเฮโรอีนแล้วจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 6 เป็นคนไปขนเฮโรอีนมาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ ดังนั้นก่อนที่จะส่งมอบเฮโรอีนของกลางให้แก่ผู้ซื้อ ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 มีเฮโรอีนจำนวนดังกล่าวไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายแล้ว”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 6 มีความผิดฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสอง อีกบทหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนจำนวนดังกล่าว และมีโทษเท่ากันจึงให้ลงโทษฐานจำหน่ายเฮโรอีน ส่วนกำหนดโทษและการบังคับคดีนอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share