แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คำสั่งศาลให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตาม ป.วิ.พ. มาตรา 253 เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณาตามป.วิ.พ. มาตรา 228(2) ย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้โดยไม่จำต้องโต้แย้งคำสั่งไว้ก่อน
คดีมีทุนทรัพย์ 18,739,895.67 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย 30,000 บาท ตามป.วิ.พ.มาตรา 253 ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อคำนึงถึงทุนทรัพย์ในคดีนี้แล้วเป็นจำนวนต่ำไป จึงให้โจทก์วางเงินประกันจำนวน 50,000บาท.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศอังกฤษ ได้มอบให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องจำเลยทั้งห้า ชำระหนี้ตามสัญญาและตั๋วแลกเงินรวมเป็นเงิน 18,739,895.67 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ก่อนวันสืบพยาน จำเลยทั้งห้ายื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงิน18,000,000 บาท เนื่องจากโจทก์ไม่ใช่ผู้อยู่ในอำนาจของศาลไทยนำคดีไม่มีมูลมาฟ้อง และหากจำเลยชนะคดีแล้วไม่อาจบังคับคดีเอาค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เสียไปจากโจทก์ได้
โจทก์คัดค้านว่า โจทก์เป็นบริษัทที่มีฐานะมั่นคง หากโจทก์แพ้คดีก็ยินดีชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ แทนจำเลย ฟ้องโจทก์มีหลักฐานเป็นหนังสือและจำนวนหนี้กำหนดแน่นอนจำเลยทั้งห้าไม่มีทางชนะคดีโจทก์ คำร้องของจำเลยเป็นการประวิงคดีทั้งจำนวนเงินที่จำเลยขอให้วางเป็นจำนวนที่สูง โดยไม่มีเหตุผลสนับสนุน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่อศาล 30,000 บาท
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งห้าฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ที่โจทก์แก้ฎีกาว่า คำร้องของจำเลยไม่มีรายละเอียดว่าจำเลยจะต้องเสียค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง จำเลยเพิ่งยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ และเมื่อศาลเห็นสมควรให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย 30,000 บาท จำเลยก็ไม่ได้โต้แย้งคำสั่งไว้ เป็นฎีกาที่ต้องห้ามตามกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คำสั่งศาลที่ให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 253 เป็นคำสั่งอันเกี่ยวด้วยคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างการพิจารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 228 (2) จำเลยย่อมอุทธรณ์ฎีกาได้โดยหาจำต้องโต้แย้งคำสั่งนั้นไว้ก่อนไม่ และคำร้องตามบทกฎหมายดังกล่าวไม่จำต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายมาแต่อย่างใด…
ส่วนข้อที่จำเลยทั้งห้าฎีกาว่า ศาลกำหนดให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงินเพียง 30,000 บาทน้อยเกินไป ไม่เหมาะสมกับพฤติการณ์แห่งคดีและความเป็นจริงนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำนวนเงินที่โจทก์ต้องวางประกันสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาตรา 253 นั้น ศาลมีอำนาจกำหนดตามที่เห็นสมควรและอาจกำหนดเงื่อนไขอย่างใดๆ ไว้ด้วยก็ได้และอย่างไรก็ดี ไม่ว่าคู่ความฝ่ายใดจะชนะคดีเต็มตามข้อหาหรือแต่บางส่วน ศาลมีอำนาจที่จะพิพากษาให้คู่ความฝ่ายที่ชนะคดีนั้นเสียค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงหรือให้คู่ความแต่ละฝ่ายเสียค่าฤชาธรรมเนียมส่วนของตน หรือตามส่วนแห่งค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายได้เสียไปก็ได้ตามที่ศาลจะใช้ดุลพินิจ โดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีของคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 วรรคแรก นอกจากนั้นค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในกรณีนี้หาได้หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสาร ค่าเดินทางและค่าที่พักในการไปดำเนินคดีดังที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างในฎีกาไม่ แต่ที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 30,000 บาทนั้น เมื่อคำนึงถึงทุนทรัพย์ในคดีนี้แล้วศาลฎีกาเห็นว่าเป็นจำนวนต่ำไป และเห็นสมควรให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 50,000 บาท ฎีกาของจำเลยทั้งห้าฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่าให้โจทก์วางเงินประกันค่าฤชาธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 50,000 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ’.