แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร พ.และทำร้ายร่างกายส. แต่โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 9 มิถุนายน 2521 จึงเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำความผิดหาได้ไม่ แม้จำเลยรับสารภาพก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 เวลากลางคืน จำเลยบังอาจกระทำอนาจารแก่นางสาวไพลินและจำเลยได้ใช้มือตบหน้านางสุภาภรณ์มารดาของนางสาวไพลินไม่ถึงอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 278, 391, 91
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 6 เดือน ปรับ 200 บาท
จำเลยอุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 9 มิถุนายน 2521 กล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 ซึ่งเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำความผิดหาได้ไม่ แม้จำเลยจะรับสารภาพ ศาลก็ยกขึ้นพิจารณาได้ พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จะลงโทษจำเลยในคดีที่จำเลยรับสารภาพเช่นนี้ต้องอาศัยคำฟ้อง และการจะฟ้องขอให้ลงโทษผู้ใดตามกฎหมายนั้นต้องเป็นเรื่องที่ผู้นั้นได้กระทำผิดมาแล้วก่อนวันที่โจทก์ฟ้อง จะฟ้องล่วงหน้าว่าจำเลยกระทำผิดหาได้ไม่ แม้จำเลยจะรับสารภาพก็เป็นการรับสารภาพตามฟ้องที่ไม่เป็นความผิดคดีนี้ปรากฏว่าโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2521 กล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2521 ซึ่งเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยกระทำผิดภายหลังวันที่โจทก์ฟ้อง แม้จำเลยจะมิได้ยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้ ศาลก็ยกขึ้นพิจารณาวินิจฉัยยกฟ้องโจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
พิพากษายืน