คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1105/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่า จำเลยลงข่าวในหนังสือพิมพ์ช่องสังคมอยุธยา โดยทิดแก้ว ว่า”วันก่อนเดินผ่านตลาดหักรอได้ยินเสียงเจ๊แต๋วมาดามของคุณประเสริฐมานะประเสริฐศักดิ์บก.แหลมทองตะโกนลั่นกลางตลาดว่า ถ้าคนที่ชื่อสุชาติบุญเกษมเดินผ่านหน้าร้านเมื่อไรจะถอดรองเท้าตบหน้าสักทีเสียเท่าไรก็ยอม จริงหรือเปล่าจ๊ะเจ๊”ทิดแก้ว” กลัวจะไม่จริงดังปากว่าเท่านั้นแหละแฮะ ๆ” ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328ข้อความดังนี้เป็นข้อความดูหมิ่น เพราะทำให้ผู้เสียหายบังเกิดความอับอายเป็นการดูหมิ่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393เป้นการอ้างบทมาตราที่ผิด ศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 393 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์โฆษณา หนังสือพิมพ์แผ่นดินทอง หมิ่นประมาทใส่ความนายสุชาติ บุญเกษม ต่อผู้อื่น โดยการโฆษณาลงข่าวในหนังสือพิมพ์ ช่องสังคมอยุธยา โดยทิดแก้ว ว่า “วันก่อนเดินผ่านตลาดหัวรอได้ยินเสียงเจ๊แต๋ว มาดามของคุณประสิทธิ์ มานะประเสริฐศักดิ์ บก.แหลมทองตะโกนลั่นกลางตลาดว่า ถ้าคนที่ชื่อสุชาติ บุญเกษม เดินผ่านหน้าร้านเมื่อไรจะถอดรองเท้าตบหน้าสักที เสียเท่าไหร่ก็ยอม จริงหรือเปล่าจ๊ะเจ๊ “ทิดแก้ว”กลัวจะไม่จริงดังปากว่าเท่านั้นแหละแฮะ ๆ” เป็นการยุยงและประจานนายสุชาติบุญเกษม ทำให้นายสุชาติ บุญเกษม เสียชื่อ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328

นายสุชาติ บุญเกษม ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

เดิม จำเลยให้การปฏิเสธ เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยถอนคำให้การเดิม ให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าข้อความที่จำเลยโฆษณาเป็นเพียงคำหยาบ และคำกล่าวพยาบาท ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ร่วมอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาคดีนี้แล้ว คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าจำเลยเป็นเจ้าของ บรรณาธิการผู้พิมพ์โฆษณา หนังสือพิมพ์แผ่นดินทอง ได้โฆษณาลงข่าวในหนังสือพิมพ์แผ่นดินทอง ฉบับที่ 23 วันที่ 1 ธันวาคม 2517 ปีที่ 1 หน้า 2 ช่องสังคมอยุธยาโดยทิดแก้ว ว่า “วันก่อนเดินผ่านตลาดหัวรอได้ยินเสียงเจ๊แต๋ว มาดามของคุณประสิทธิ์ มานะประเสริฐศักดิ์ บก.แหลมทอง ตะโกนลั่นกลางตลาดว่าถ้าคนที่ชื่อสุชาติ บุญเกษม เดินผ่านหน้าร้านเมื่อไร จะถอดรองเท้าตบหน้าสักทีเสียเท่าไหร่ก็ยอมจริงหรือเปล่าจ๊ะเจ๊ “ทิดแก้ว” กลัวจะไม่จริงดังปากว่าเท่านั้นแหละแฮะ ๆ” ข้อความดังนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นข้อความดูหมิ่นนายสุชาติ บุญเกษม หรือโจทก์ร่วม เพราะเป็นข้อความที่ทำให้โจทก์ร่วมบังเกิดความอับอาย และเมื่อข้อความดังกล่าวนี้จำเลยเป็นผู้ทำให้เกิดขึ้นปรากฏแก่คนทั้งหลายในหนังสือพิมพ์จึงเป็นการดูหมิ่นโจทก์ร่วมด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393และถือว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษในฐานนี้ ซึ่งไม่ถึงกับเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 อันเป็นเรื่องหมิ่นประมาทด้วยการใส่ความ และเป็นการอ้างบทมาตราที่ผิด กรณีเช่นนี้ศาลลงโทษจำเลยตามบทกฎหมายที่ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 192 วรรคสี่

พิพากษากลับ ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393ให้ปรับ 300 บาท ถ้าไม่ชำระค่าปรับให้บังคับตามมาตรา 29, 30

Share