แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พฤติการณ์ที่ถือว่าข้อเท็จจริงที่โจทก์นำสืบไม่ต่างกับที่ปรากฎในฟ้อง และเป็นข้อที่โจทก์ประสงค์จะให้ลงโทษ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำนาและถมดินทำระบังจับปลากีดขวางลำเหมืองซึ่งทางราชการประกาศกำหนดเขตต์ไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ทำให้น้ำในลำเหมืองดินไม่สะดวกขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ควบคุมการเหมืองฝ่าย ฯลฯ และกฏหมายอาญา ม.๓๓๕ ข้อ ๑๐
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญา ม.๓๓๕(๑๐)
จำเลยฏีการว่าจะลงโทษจำเลยฐานกีดขวางทางน้ำสาธารณประโยชน์มิได้ เพราะข้อเท็จจริงเช่นนี้โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องและประสงค์ให้ลงโทษ
ศาลฏีกาตัดสินว่าตามฟ้องและข้อที่ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ม.๓๓๕(๑๐) แห่งกฏหมายอาญา พอที่จะให้โจทก์นำสืบว่าจำเลยได้ทำการขัดขวางแก่ทางน้ำไหลอันเป็นสาธารณประโยชน์ การที่โจทก์ขอให้ลงโทษตาม ม.๓๓๕ (๑๐) ด้วย ก็เป็นการแสดงถีงความประสงค์ของโจทก์โดยชัดแจ้งฏีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นให้ยก