แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินตามเช็คของจำเลย การการกระทำของจำเลยย่อมเป็นผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ มาตรา 3 แล้วจำเลยจะมีทางพ้นผิดได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามมาตรา 5ซึ่งบัญญัติให้ผู้กระทำผิดนำเงินไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันที่ธนาคารบอกกล่าวแก่ผู้ออกเช็คได้รับทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน เมื่อทางพิจารณาฟังได้ว่า ธนาคารมิได้บอกกล่าวให้จำเลยผู้ออกเช็คได้รับทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน กับกรณีเรื่องนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินแก่ผู้ทรงเช็คแล้ว และการชำระเงินก็ยังไม่พ้นกำหนดเวลาดังระบุไว้ในมาตรา 5 เพราะธนาคารไม่ได้บอกกล่าวแก่จำเลยให้ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงยังไม่อาจเริ่มนับระยะเวลาและเมื่อไม่อาจเริ่มนับระยะเวลา จึงไม่มีทางจะถือว่าพ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ได้ คดีจึงเป็นอันเลิกกัน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาสามย่านสั่งจ่ายเงินสด 2,000 บาทให้ผู้เสียหาย ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินและได้ส่งเช็คคืนเพราะเงินจำเลยฝากไว้ที่ธนาคารไทยพัฒนา จำกัดฯมีไม่พอจ่ายทั้งนี้ โดยจำเลยออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ในขณะออกเช็ค และด้วยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยออกเช็คให้นายจรินทร์ผู้เสียหาย ๆ เอาเช็คไปขึ้นเงินจากธนาคารไม่ได้ แต่ต่อมานางจงกลเจ้าของบ้านที่จำเลยรับเหมาก่อสร้างได้ออกเช็คสั่งจ่ายเงิน 2,000 บาทให้ผู้เสียหายไป เป็นการแลกกับเช็คของจำเลย จำเลยจึงไม่ควรรับผิดพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า นางจงกลจ่ายเงินแทนจำเลยเกิน 7 วันนับแต่วันที่ธนาคารบอกกล่าวให้ผู้ออกเช็คได้ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงไม่ทำให้จำเลยพ้นผิด พิพากษากลับลงโทษจำคุก 1 เดือน โทษจำรอ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อธนาคารไทยพัฒนา จำกัด สาขาสามย่านปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คหมาย จ.1 ของจำเลย เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2504 การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 แล้วจำเลยจะมีทางพ้นผิดได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัตินี้ ทางพิจารณาฟังได้ว่าธนาคารไทยพัฒนา จำกัดฯมิได้บอกกล่าวให้จำเลยผู้ออกเช็คได้รับทราบว่าธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงิน ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อมาตรา 5 บัญญัติว่า ถ้าผู้กระทำผิดได้นำเงินไปชำระแก่ผู้ทรงเช็คภายในกำหนด 7 วันนับแต่วันที่ธนาคารบอกกล่าวแก่ผู้ออกเช็คได้รับทราบว่า ธนาคารปฏิเสธไม่จ่ายเงินให้คดีเป็นอันเลิกกัน กรณีเรื่องนี้ถือได้ว่าจำเลยได้ชำระเงินแก่ผู้ทรงเช็คแล้ว และการชำระเงินก็ยังไม่พ้นกำหนดเวลาดังระบุไว้ในมาตรา 5 เพราะธนาคารไม่ได้บอกกล่าวแก่จำเลยให้ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงยังไม่อาจเริ่มนับระยะเวลา และเมื่อไม่อาจเริ่มนับระยะเวลาจึงไม่มีทางจะถือว่าพ้นกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ได้ คดีจึงเป็นอันเลิกกันตามที่กล่าวแล้ว พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์