คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องอ้างว่ามีกรรมสิทธิในที่นา จำเลยเข้ามาเก็บเอาข้าวในนาของโจทก์ไป เป็นเงินจำนวนหนึ่ง ขอให้จำเลย ใช้ แม้จะได้ความว่านาเป็นของบุคคลอื่น แต่โจทก์ได้ปลูกข้าวไว้ในที่ด้วยความยินยอมของเจ้าของแล้ว แม้โจทก์จะ ไม่มีกรรมสิทธิในที่ การที่จำเลยมาเก็บข้าวไปย่อมเป็นการละเมิดต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์./

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องอ้างว่า มีกรรมสิทธิในที่นา ๑ แปลง จำเลยได้บังอาจนำบริวารเข้าเก็บข้าวในนาของโจทก์ไปเป็นราคา ๑๕๐๐ บาท ขอบังคับให้จำเลยใช้
จำเลยต่อสู้ว่าเป็นนาของนางอิ่มพี่สาว่าจำเลย พี่สาวจำเลยยกนาให้จำเลยแล้ว.
ศาลชั้นต้นฟังว่าเป็นนาของนางอิ่ม นางอิ่มให้โจทก์ทำนารายนี้ และโจทก์ได้ปลูกข้าวไว้ จำเลยเป็นผู้มาเก็บข้าวไป จึง เป็นละเมิดสิทธิของโจทก์พิพากษาให้จำเลยใช้เงิน ๑๕๐๐ บาท.
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อกฎหมายที่จำเลยอ้างขึ้นมา มีว่า โจทก์ฟ้องอ้างสิทธิถึงการมีกรรมสิทธิในนา แต่ได้ความว่าโจทก์มิได้มีกรรมสิทธิ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นละเมิด ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อคดีได้ความว่าโจทก์ได้ ปลูกข้าวไว้ในที่ดินด้วยความยินยอมของเจ้าของที่แล้ว แม้โจทก์จะไม่มีกรรมสิทธิในที่การที่จำเลยเก็บข้าวไป ก็ย่อม เป็นการละเมิด เพราะการกระทำของจำเลยทำให้โจทก์ต้องศูนย์เสียทรัพย์ไปโดยจำเลยไม่มีอำนาจกระทำเช่นนั้นได้
จึงพิพากษายืน.

Share