คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1092/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อไม่มีการหมั้นโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนความเสียหายในการเตรียมการสมรสจากจำเลยทั้งสามซึ่งไม่มาทำพิธีสมรสในวันที่กำหนด ตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยสู่ขอโจทก์เพื่อสมรสกับจำเลยที่3โดยตกลงให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดงานและพิธีสมรสแล้วจำเลยที่3ไม่มาทำพิธีสมรสตามที่ตกลงไว้อีกทั้งค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมการสมรสหรือค่าเสียหายทางจิตใจเนื่องจากถูกชาวบ้านดูถูกให้อับอายขายหน้าก็ตามล้วนสืบเนื่องมาจากการที่จำเลยที่1และที่2ไม่น่าจำเลยที่3มาทำพิธีสมรสในวันที่กำหนดมูลคดีตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์จึงเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามผิดสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรสมิใช่มูลละเมิดตามที่โจทก์อุทธรณ์เพราะคำฟ้องหาได้บรรยายว่าจำเลยทั้งสามได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยผิดกฎหมายทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา420แต่ประการใดไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 เป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 3 จำเลยทั้งสามได้เจรจาเพื่อสู่ขอโจทก์นายวิรัชและนางละออ สระทองแพผู้เป็นบิดาและมารดาเพื่อทำการสมรสกับจำเลยที่ 3 ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2538 โจทก์ นายวิรัชและนางละออยินยอมให้มีการสมรส โดยจำเลยทั้งสามให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดงานและพิธีสมรสที่บ้านของโจทก์ ครั้นถึงวันกำหนดทำพิธีสมรสจำเลยทั้งสามไม่มาในงานพิธีสมรส เป็นเหตุให้โจทก์กับจำเลยที่ 3 ไม่ได้สมรสกัน การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นเหตุให้โจทก์และนายวิรัชได้รับความเสียหายเนื่องจากการเตรียมการสมรสเป็นเงิน 85,000 บาท และทำให้โจทก์นายวิรัชและนางละออได้รับความอับอายขายหน้าและถูกดูถูกจากชาวบ้านในหมู่บ้านโจทก์ขอคิดค่าเสียหายส่วนนี้เป็นเงิน 35,000 บาท โจทก์ติดตามทวงถามแล้วจำเลยทั้งสามเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระค่าเสียหายเนื่องจากการเตรียมการสมรสแก่โจทก์จำนวน 85,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินจำนวน 85,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ กับชำระค่าเสียหายต่อจิตใจจำนวน35,000 บาท
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า ตามฟ้องไม่ปรากฏว่ามีการหมั้น กรณีจึงอยู่นอกขอบเขตที่กฎหมายรับรอง แม้จำเลยไม่ปฎิบัติตามที่ตกลงไว้ โจทก์ก็ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า คำบรรยายฟ้องโจทก์เป็นเรื่องผิดข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรสหรือเป็นเรื่องละเมิด โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยทั้งสามได้เจรจาสู่ขอโจทก์เพื่อทำการสมรสกับจำเลยที่ 3 ในวันที่ 5พฤษภาคม 2538 โจทก์ยินยอมให้มีการสมรส โดยจำเลยทั้งสามให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดการและพิธีสมรสที่บ้านของโจทก์ ครั้นถึงวันกำหนดทำพิธีสมรส จำเลยทั้งสามไม่มาในงานพิธีสมรส เป็นเหตุให้โจทก์ไม่ได้สมรส ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อเตรียมการสมรส และได้รับความอับอายขายหน้า และถูกดูถูกจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ขอให้บังคับจำเลยทั้งสามชดใช้ค่าเสียหายในการเตรียมการสมรสและค่าเสียหายต่อจิตใจ เห็นว่าตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องฝ่ายจำเลยสู่ขอโจทก์เพื่อทำการสมรสกับจำเลยที่ 3 โดยตกลงให้ฝ่ายโจทก์เป็นผู้จัดงานและพิธีสมรส แล้วจำเลยที่ 3 ไม่มาทำพิธีสมรสตามที่ตกลงไว้ กับค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง ทั้งค่าใช้จ่ายในการเตรียมพิธีสมรสก็ดี ค่าเสียหายทางจิตใจ เนื่องจากถูกชาวบ้านดูถูกให้อับอายขายหน้าก็ดี ล้วนสืบเนื่องมาจากการที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่นำจำเลยที่ 3 มาทำพิธีสมรสในวันที่กำหนด มูลคดีตามคำบรรยายฟ้องของโจทก์จึงเป็นการกล่าวหาว่าจำเลยทั้งสามผิดสัญญาหรือข้อตกลงเกี่ยวกับการสมรส มิใช่มูลละเมิดตามที่โจทก์อุทธรณ์ เพราะคำฟ้องโจทก์หาได้บรรยายว่าจำเลยทั้งสามได้กระทำการโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อโดยผิดกฎหมาย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 แต่ประการใดไม่ ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าตามคำฟ้องไม่ปรากฎว่ามีการหมั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลย จึงชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียม ชั้น นี้ ให้ เป็น พับ

Share